จีนจ่อแซงรัสเซียขึ้นแท่น‘ภัยคุกคามนิวเคลียร์’สหรัฐ
นายพลสหรัฐเผย จีนจะแซงรัสเซียขึ้นเป็นภัยคุกคามนิวเคลียร์เบอร์ 1 ของในเร็วๆ นี้ เตือนทั้งสองประเทศยังไม่มีกลไกป้องกันการสื่อสารผิดพลาดระหว่างกัน
พล.อ.ท.โทมัส บัสเซียร์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐ ที่ดูแลคลังแสงนิวเคลียร์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (27 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า การพัฒนาขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของจีนไม่ได้เป็นไปตามที่บอกไว้กับสาธารณชนว่ามีไว้เพื่อป้องปรามขั้นต่ำอีกต่อไปแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้จีนจะแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นภัยคุกคามนิวเคลียร์ใหญ่สุดของสหรัฐ การกล่าวเช่นนี้ไม่ได้ดูแค่จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่จีนมีในคลังแสงเท่านั้น แต่ยังดูถึงวิธีการปฏิบัติงานภาคสนามของจีนด้วย
นายพลรายนี้กล่าวด้วยว่า สิ่งที่จีนแตกต่างจากรัสเซียคือ สหรัฐไม่ได้ทำสนธิสัญญาหรือกลไกการสนทนากับจีน “เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือความสับสน”
ความเห็นของ พล.อ.ท.บัสเซียร์เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐพยายามปรับนโยบายต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมากขึ้นเพื่อรับมือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารของจีนที่ทวีขึ้นทุกขณะ
ระหว่างการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชียและพันธมิตรเมื่อต้นเดือน ส.ค.นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ก็แสดงความกังวลอย่างมากเรื่องคลังแสงนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของจีน
รายงานหลายฉบับจากกลุ่มคลังสมองอาศัยข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมระบุว่า ดูเหมือนว่าจีนกำลังก่อสร้างไซโลเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์อีกหลายร้อยแห่ง รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาว่า ปักกิ่งไม่ยอมเจรจาเรื่องอาวุธนิวเคลียร์
ส่วนจีนตอบโต้ว่า นิวเคลียร์ที่ตนมีเทียบไม่ได้กับสหรัฐและรัสเซีย และตนก็พร้อมจะเจรจาถ้าสหรัฐจะลดคลังแสงนิวเคลียร์ให้เหลือเท่าๆ กัน