ดาวโจนส์ร่วง 64 จุดผวาเฟดหั่นคิวอีหลังเงินเฟ้อพุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์ (10ก.ย.)ร่วงลง 64 จุด โดยปรับตัวลง 5 วันติดต่อกัน ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 64.65 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 34,814.73 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 4.21 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 4,489.07 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 3.20 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 15,245.06 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขานรับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงในเวลาต่อมา หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) พุ่งขึ้นในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญภาวะเงินเฟ้อ และอาจทำให้เฟดปรับลดวงเงินคิวอีและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีพีพีไอ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6%
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย.2553 หลังจากดีดตัวขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี พีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนส.ค.2557
ตลาดจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของสหรัฐในวันอังคารที่ 14 ก.ย. เพื่อยืนยันภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เงินเฟ้อในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ แต่จะปรับตัวลงในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มมีความเสี่ยงในช่วงขาขึ้น
นอกจากนี้ นางเมสเตอร์ยังกล่าวสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้ แม้สหรัฐมีการจ้างงานที่อ่อนแอในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
“ดิฉันไม่คิดว่าตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.จะเปลี่ยนแปลงมุมมองของดิฉันที่ว่าเฟดมีความคืบหน้าอย่างมากในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้อ” นางเมสเตอร์กล่าว
ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 ก.ย. ซึ่งนักลงทุนจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินคิวอี ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่