“โจ ไบเดน” ลั่นกลางเวทียูเอ็น “การทูต” ป้องประชาธิปไตย
"ประธานาธิบดีสหรัฐ" วางแผนเชิงการแข่งขันอย่างดุเดือด ยืนยันจะไม่มีสงครามเย็นครั้งใหม่ แม้จีนจะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวปราศรัยในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 76 ที่นครนิวยอร์ก ในวันอังคารที่ผ่านมา (21 ก.ย.) โดยให้คำมั่นว่า กองทัพสหรัฐจะยับยั้งชั่งใจ และสหรัฐจะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง
โลกกำลังเผชิญกับปีแห่งทศวรรษ เป็นยุคที่ผู้นำต้องทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยสหรัฐจะเพิ่มงบทางการเงินเป็นสองเท่า ในการช่วยเหลือด้านสภาพอากาศ และใช้เงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อคลี่คลายความหิวโหยที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ในปราศรัยนี้ ปธน.ไบเดนไม่พูดคำว่า จีน หรือปักกิ่ง แต่เขากล่าวอย่างมีนัยโดยอ้างอิงถึงคู่แข่งที่มีอำนาจเพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งสองประเทศสนใจภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ในด้านการค้าและสิทธิมนุษยชน
ปธน.ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐจะมุ่งมั่นเพื่อการแข่งขันในด้านเศรษฐกิจ ผลักดันประชาธิปไตย และหลักนิติธรรม
"เรายืดหยัดเพื่อประเทศพันธมิตร และต่อต้านความพยายามของประเทศที่เข้มแข็งกว่าที่กดดันประเทศอ่อนแอกว่า ไม่ว่าจะบีบบังคับผ่านดินแดน และเศรษฐกิจ ขอย้ำว่า สหรัฐไม่ต้องการแสวงหาสงครามเย็นครั้งใหม่ หรือโลกที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย" ไบเดน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปธน.ไบเดนเดินทางมายังสหประชาชาติ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศเรื่องการถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานของสหรัฐ ซึ่งสร้างความโกลาหลอย่างมาก ทำให้ชาวอเมริกันและพันธมิตรอัฟกันบางส่วน ยังคงอยู่ในประเทศนั้น และพยายามดิ้นรนจะลี้ภัยออกจากประเทศ