"ดอน" หารือ "เลขาฯยูเอ็น" ยัน BCG สร้างสมดุลของสรรพสิ่ง หนุนความยั่งยืน
"ดอน ปรมัตถ์วินัย" หารือเลขาฯยูเอ็น เห็นพ้องกระชับความร่วมมือ "สร้างสมดุลของสรรพสิ่ง" ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อเร่งรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบปะหารือนายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐ
ในโอกาสนี้ นายดอนแสดงความยินดีกับนายกุแตเรซที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรง
ตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็น เป็นสมัยที่ 2 และยืนยันบทบาทที่แข็งขันของไทยในการเป็นผู้ประสานงาน อาเซียน-สหประชาชาติ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายดอน แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) จะช่วยส่งเสริมการดำเนินการภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งหุ้นส่วนความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อสร้าง “สมดุลของสรรพสิ่ง” ซึ่งจะเป็นหัวข้อหลัก ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของไทยในปี 2565
นอกจากนี้ นายดอนยังกล่าว ชื่นชมรายงาน “Our Common Agenda” ของเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งจะช่วยวางแนวทางการดำเนินงาน เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
นายดอน กล่าวย้ำบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในฐานะรัฐสมาชิกที่มีความรับผิดชอบ และเชื่อถือได้ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การเป็นสมาชิกสหประชาชาติของไทยในเดือนธันวาคม 2564
ด้านนายกุแตเรช ชื่นชมที่ไทยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหประชาชาติในหลายด้าน รวมถึงด้านสันติภาพและความมั่นคง และการพัฒนา และชื่นชมการที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของสหประชาชาติในเอเชีย
ทั้งสองฝ่ายหารือในหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งนายกุแตเรชกล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ต้องยกระดับความพยายามในการรับมือกับการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยต้องให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของเยาวชน
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ ในเมียนมา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของผู้แทนพิเศษ มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเมียนมาอย่างสันติ
นายกุแตเรชดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2560 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติเป็นสมัยที่สองเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564
ก่อนหน้านี้ นายกุแตเรชเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โปรตุเกสและข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ