ไต้หวันทุ่ม 9พันล้านดอลล์เสริมเขี้ยวเล็บสกัดจีนบุก
ระยะนี้จีนและไต้หวันมีเรื่องให้กระทบกระทั่งกันบ่อยครั้งขึ้น ไล่ตั้งแต่การที่จีนยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เพื่อขอเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี)
การเคลื่อนไหวของไต้หวัน สร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลปักกิ่งอย่างมาก โดย "จ้าว ลี่เจียน" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและไต้หวันไม่ควรได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในซีพีทีพีพี
“เราคัดค้านอย่างหนักแน่นที่ประเทศใดๆ จะแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และคัดค้านอย่างหนักที่ไต้หวันเข้าร่วมสนธิสัญญาหรือองค์การที่เป็นทางการนี้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว
อ่านข่าว : เกาหลีเหนืออ้างทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่สำเร็จ
ขณะที่'ฉุ่ย กั๊วะ-เฉิง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันจำเป็นต้องมีอาวุธที่มีระยะการโจมตีพิสัยไกลและอาวุธที่มีความแม่นยำเพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากจีนที่พัฒนาระบบการโจมตีไต้หวันได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ในเดือนนี้ ไต้หวันเสนอการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศในระยะ5ปีข้างหน้าเป็นเงินถึง 9,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมถึงการติดตั้งขีปนาวุธใหม่ พร้อมทั้งเตือนว่า ช่วงเวลานี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่รุนแรงจากประเทศเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่อย่างจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
ฉุ่ย ซึ่งชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาไต้หวัน บอกว่า ไต้หวันจำเป็นต้องบอกให้จีนรู้ว่ามีความสามารถในการปกป้องตัวเอง "การพัฒนาอาวุธต้องเน้นอาวุธเคลื่อนที่ มีพิสัยการยิงไกลและมีความแม่นยำ"
ในรายงานที่ส่งถึงที่ประชุมรัฐสภาพร้อมทั้งการปรากฏตัวของฉุ่ยด้วยนั้น กระทรวงกลาโหม ระบุว่าขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกลถูกนำมาใช้ในการฝึกเพื่อสกัดกั้นข้าศึกที่ศูนย์ทดสอบหลักบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน แต่ฉุ่ย ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับพิสัยการยิงของขีปนาวุธของไต้หวันว่ายิงไกลแค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไต้หวันพยายามเลี่ยงที่จะเปิดเผยมาโดยตลอด
การเร่งเสริมเขี้ยวเล็บของทางการไทเป มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งได้ส่งเครื่องบินรบบินเฉียดไต้หวันกว่า 25 ครั้ง หลังจากไต้หวันเปลี่ยนชื่อสำนักงานทูตในกรุงวอชิงตัน ซึ่งจีนถือว่าไต้หวันจงใจแสดงความเป็นเอกเทศและละทิ้งนโยบายจีนเดียว
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ กำลังพิจารณาคำขอของไต้หวัน ให้เปลี่ยนชื่อสำนักงานคณะทูตในเมืองหลวงของสหรัฐจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป (Taipei Economic and Cultural Representative Office) หรือ Tecro เป็นสำนักงานชาติไต้หวัน (Taiwan Representative Office) ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีความเห็นว่าเป็นการลบการหลู่เกียรติอย่างรุนแรง หากไต้หวันยังมีความพยายามใช้ชื่อนี้ต่อไป