จับตา งานเว็บซัมมิตสัปดาห์หน้าหารืออนาคตเฟซบุ๊ค
งานประชุม“เว็บซัมมิต” ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าคาดว่า อนาคตเฟซบุ๊คต้องถูกจับตาอย่างหนักหลังรีแบรนด์เป็น “เมทา” หลังจากอดีตพนักงานออกมาแฉเรื่องฉาว
“เว็บซัมมิต” งานประชุมสัมนาด้านเทคโนโลยีใหญ่สุดงานหนึ่งของโลก มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างเย็นวันที่ 1- 4 พ.ย. ที่กรุงลิสบอนของโปรตุเกสคาดว่าจะมีคนเข้าร่วมราว 4,000 คน จากปกติช่วงไม่มีโควิด-19 ระบาด เคยมีคนมากถึง 7,000 คน โดยปีนี้จะมีผู้บริหารจากยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) ราว 70 แห่งมาร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาและความพยายามเดินหน้าของเฟซบุ๊คน่าจะได้รับความสนใจมากที่สุด
ทั้งนี้ ฟรานเซส เฮาแกน อดีตวิศวกรเฟซบุ๊ค ผู้นำเอกสารภายในชุดใหญ่ออกมาแฉกับสื่อนานาชาติ มีกำหนดปาฐกถาในคืนเปิดงาน
“เฟซบุ๊คเปเปอร์ส” ระบุว่า ผู้บริหารทราบดีว่าเว็บไซต์ของตนอาจเป็นอันตรายในหลายๆ ด้าน เช่น ผลกระทบจากอินสตาแกรมต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น และการบิดเบือนข้อมูลในประเทศกำลังพัฒนา
นอกเหนือจากความรู้สึกถึงวิกฤติ ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเฟซบุ๊คต้องเผชิญกับความไม่พอใจจากสาธารณชน และเสียงเรียกร้องให้ควบคุมอิทธิพลของเฟซบุ๊คหนาหูขึ้น กระนั้นการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 25 ต.ค.บริษัทรายงานกำไรประจำไตรมาสกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17%
ก้าวสู่เมทา
เฮาแกนเคยเข้าให้ข้อมูลกับสภาสหรัฐและสหราชอาณาจักรเตือนว่า เฟซบุ๊คไม่เคยสนใจความกังวลของพนักงานเรื่องที่บริษัทเห็นแก่ผลกำไรมากกว่า แต่งานเว็บซัมมิตจะเป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน
เฟซบุ๊คเองก็มีโอกาสตอบโต้เสียงวิจารณ์ โดยนิค เคลกก์ รองประธานจะร่วมเวทีเสวนาในวันที่ 2 พ.ย. และคริส ค็อกซ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ขึ้นเวทีในวันที่ 3 พ.ย. ทั้งสองคนจะคุยเรื่อง “เมทาเวิร์ส” การสร้างประสบการณ์เสมือนจริงของอินเทอร์เน็ต เช่น การคุยกับเพื่อน ร่วมคอนเสิร์ต ราวกับไปด้วยตนเอง
ทั้งนี้ บริษัทแม่ของเฟซบุ๊คประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) ตามเวลาสหรัฐว่า กำลังเปลี่ยนชื่อเป็น “เมทา”ปรากฏว่าโดนถล่มหนักบนโลกโซเชียล หลายคนเยาะเย้ยว่าทำไปเพื่อเบี่ยงกระแสปัญหาที่เฟซบุ๊คเผชิญ แต่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊คส่งสัญญาณว่าเขาเอาจริงกับการสร้างอินเทอร์เน็ตที่โลกดิจิทัลกับโลกจริงใกล้เคียงกันมาก
สัปดาห์ก่อนยักษ์เทคโนโลยีรายนี้ประกาศว่า จะจ้างพนักงานในสหภาพยุโรป 10,000 คน ทำงานสร้างเมทาเวิร์สตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า
ในซิลิคอนวัลเลย์เองก็คุยกันหนาหูว่าเมทาเวิร์สจะหน้าตาเป็นอย่างไร หลายๆ เวทีของเว็บซัมมิตน่าจะตอบคำถามเรื่องนี้โดยเฉพาะ
“ผมคิดว่าน่าจะมีการถกกันในเรื่องนี้ว่าจริงแค่ไหน โม้แค่ไหน” แพดดี คอสเกรฟ ซีอีโอเว็บซัมมิตกล่าว
นอกจากนี้ประเด็นหลักในงานเว็บซัมมิตยังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สอดรับกับการประชุม COP26 ที่สกอตแลนด์
สำหรับโปรตุเกสเจ้าภาพ ที่จัดงานเว็บซัมมิตมา 5 ปี คอสเกรสชมเชยว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูงสุดประเทศหนึ่งของโลก ข้อจำกัดส่วนใหญ่ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. แต่ผู้จัดงานยังใช้มาตรการป้องกันอันหลากหลาย เช่น ผู้ร่วมงานทุกคนต้องแสดงหลักฐานว่าฉีดวัคซีนแล้ว หรือมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในงานที่ปีนี้จัดใหญ่กว่าเดิมเพื่อเปิดให้ผู้ร่วมงานอยู่ห่างกันได้มากขึ้น