กูรูวอลล์สตรีทคาดการณ์แนวโน้มตลาดเอเชียปี65

กูรูวอลล์สตรีทคาดการณ์แนวโน้มตลาดเอเชียปี65

กูรูวอลล์สตรีทคาดการณ์แนวโน้มตลาดเอเชียปี65 ขณะโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าจีดีพีอินเดียในปี2565จะขยายตัวในอัตรา 7.8%

บรรดาวาณิชธนกิจและธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่สุดในวอลล์สตรีท เผยรายงานคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดโลกในปี2565 หลังจากเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากมาตลอดหนึ่งปีเต็ม แต่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เป็นผลมาจากการกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ก็ทำให้เกิดการคาดหวังว่าในช่วง12เดือนข้างหน้าปัญหาต่างๆที่เป็นผลพวงจากการระบาดของโรคโควิด-19 จะทุเลาเบาบางลง 

แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยังไม่เต็มที่ บวกกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีอยู่ เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียจึงนำเสนอภาพรวม 4  ด้านในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีหน้า

1.เศรษฐกิจขยายตัว

 “เจพีมอร์แกน เชส” ระบุในรายงานชื่อ “Long-Term Capital Market Assumptions” ว่าความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจโลกมาอยู่ในจุด หรืออยู่ใกล้กับจุด “ความเร็วหลุดพ้น” ซึ่งเป็นระดับของกิจกรรม ที่สามารถลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เนื่องจากศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐโลก ไม่ถูกขัดขวางจากการระบาดใหญ่
 

ด้าน"บาร์เคลย์" ระบุในรายงานชื่อ“Outlook 2022: The Global Re-Awakening,”ว่า ภายในกรอบงานกว้างๆ บรรดานักเศรษฐศาสตร์และนักวางกลยุทธ์ต่างมองเห็นสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจในบางประเทศ โดยเฉพาะอินเดียจะเป็นประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสอง

“การส่งออกของอินเดียเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคเกษตรกรรมและภาคบริการฟื้นตัว”บาร์เคลย์ส ระบุ 

ขณะที่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจมหัพภาคของโกลด์แมน แซคส์ ระบุถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจอย่างเป็นเอกฉันท์ที่ระบุว่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของอินเดียจะขยายตัวในอัตรา 7.8% 

“ในระดับโลก การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปี2565เกือบเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจหลังการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทำให้การเติบโตโดยรวมใกล้ถึงระดับที่เป็นแนวโน้ม”เจ้าหน้าที่ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจาก“อาร์บีซี แคปิตัล มาร์เก็ตส์” ระบุในเอกสารด้านกลยุทธ์สำหรับปีใหม่

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุว่า"การเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเปลี่ยนไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

การที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดน้อยลง และราคาโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยเร่งให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียและอินโดนีเซียสดใสขึ้น แม้ว่าไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนจะเป็นตัวแปรทำให้เกิดความไม่แน่นอน 

รายงานยังคาดการณ์ว่า การเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะไม่ทำให้เกิดปัญหาที่เลวร้ายตามมาและความผันผวนของตลาดจะบรรเทาเบาบางลง นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าในปี2565 สภาพแวดล้อมในเชิงบวกจะส่งผลดีต่อค่าเงินริงกิตของมาเลเซียและค่าเงินรูเปี๊ยะห์ของอินโดนีเซีย

ส่วนเศรษฐกิจใหญ่สุดของเอเชียอย่างจีนนั้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากกิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนประมาณ 30% ของจีดีพีจีน

2.นโยบายปราบโควิดจีนกระทบตลาดโลก

โกลด์แมน แซคส์ประเมินว่าจีนยังคงมีความเสี่ยงสูงในเรื่องของกระบวนการผลิตในโรงงานและการปิดท่าเรือ ประกอบกับนโยบายลดยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19ให้เหลือศูนย์ราย ซึ่งจะมีการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเมื่อยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 

ส่วนเจพีมอร์แกน เชส ระบุในเอกสารด้านกลยุทธ์ในจีนว่า การเปิดประเทศอีกครั้งของจีนน่าจะเกิดขึ้หลังจากเสร็จสิ้นการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนก.พ. และบาร์เคลย์ คาดการณ์ในรายงานชื่อ “Emerging Asia Outlook”ว่า จีนยังคงใช้นโยบายลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ให้เหลือศูนย์รายไปจนถึงการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เดือนต.ค.ปีหน้า

3.จีนผ่อนคลายมาตรการปราบปราม

บาร์เคลย์ คาดการณ์ว่าสถานการณ์ไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมไอทีของจีนในปีหน้าจะลดลงและเชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เกิดจากการบังคับใช้กฏระเบียบที่เข้มงวดกับบรรดาบริษัทด้านไอที บริษัทให้บริการด้านการศึกษาและบริษัทให้บริการด้านเกมออนไลน์ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างหนักในปีนี้จะเบาลง 

4.หุ้นญี่ปุ่นยิ้มรับปีใหม่

หุ้นญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหุ้นเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งในหลายไตรมาส โดยผู้จัดการกองทุนอย่าง“พิมโก้”เพิ่มน้ำหนักการลงทุนแก่หุ้นญี่ปุ่นในปีหน้าส่วนหนึ่งเป็นเพราะธุรกิจไฮ-เทคของญี่ปุ่นมีข้อได้เปรียบมากกว่า

เช่นเดียวกับยูบีเอส ที่คาดการณ์ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2565 ว่า การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19จะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจแก่ญี่ปุ่นและสนับสนุนความมั่นใจของบรรดานักลงทุนในญี่ปุ่น 

“เราคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านงบประมาณของญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะจะมีมูลค่าประมาณ 4-5% ของจีดีพี ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินยังคงผ่อนคลายและสนับสนุนให้เงินเยนอ่อนค่า ”รายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของยูบีเอส ระบุ