คริสต์มาสยุโรปป่วน โอมิครอนเล่นงานหนัก
ยิ่งนับวันการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยิ่งรุนแรงขึ้น เนเธอร์แลนด์เข้าสู่การล็อกดาวน์เข้มงวดช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ เพื่อสกัดโอมิครอนที่ติดต่อได้ง่ายกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตต์ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศเมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) ร้านค้าและบริการที่ไม่จำเป็น เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม พิพิธภัณฑ์และยิมปิดให้บริการตั้งแต่วันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) - 14 ม.ค. โรงเรียนทุกโรงปิดไปจนถึงวันที่ 9 ม.ค.เป็นอย่างน้อย แนะนำให้ครัวเรือนรับแขกได้ไม่เกินสองคน การรวมตัวกันนอกบ้านสูงสุดไม่เกิน 2 คน
“เนเธอร์แลนด์กำลังปิดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะการระบาดระลอกที่ 5 กำลังมาหาเราพร้อมสายพันธุ์โอมิครอน ถ้าไม่ทำตอนนี้อาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่จัดการไม่ได้ในโรงพยาบาลที่ตอนนี้ลดบริการปกติเปิดพื้นที่รับผู้ป่วยโควิด-19 มากขึ้น" นายกฯ เนเธอร์แลนด์ย้ำ
ทั้งนี้ การติดเชื้อในเนเธอร์แลนด์ลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังล็อกดาวน์ช่วงกลางคืนเมื่อปลายเดือน พ.ย. โควิดสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาในช่วงที่ประเทศกำลังรับมือกับการติดเชื้อระลอกใหม่อยู่แล้ว
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนพุ่งขึ้นนับตั้งแต่เนเธอร์แลนด์พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ขณะที่โรงพยาบาลต้องรับมือกับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมากในหอผู้ป่วย เรียกได้ว่าเกือบจะถึงระดับสูงสุดในปีนี้
แจ็บ แวน ดิสเซล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับแถวหน้าของประเทศกล่าวว่า สายพันธุ์โอมิครอนจะเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์แลนด์ระหว่างคริสต์มาสถึงวันส่งท้ายปีเก่า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ผู้ใหญ่ชาวดัตช์ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 85% แต่ที่ฉีดเข็มกระตุ้นมีไม่ถึง 9% ต่ำสุดประเทศหนึ่งของยุโรป
เมื่อวันเสาร์สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมตั้งแต่เริ่มระบาดที่ 2.9 ล้านคน เสียชีวิต 20,420 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,616 คน
ในวันเดียวกันที่อังกฤษจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนพุ่งสูงขึ้นมาก ที่ปรึกษารัฐบาลเผยว่า นี่เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนต้องประกาศ “สาธารณภัย” เพื่อช่วยโรงพยาบาลรับมือผู้ป่วย
สำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขสหราชอาณาจักร (ยูเคเอชเอสเอ) รายงานว่า เมื่อเวลา 1.00 น. วันเสาร์ ตามเวลาประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนทั่วยูเคอยู่ที่เกือบ 25,000 คน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง
นับถึงวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) ผู้ติดเชื้อ 7 คนที่เชื่อว่าติดโอมิครอนเสียชีวิต เพิ่มจากข้อมูลเดิมถึงวันอังคาร (14 ธ.ค.) เสียชีวิตเพียง 1 คน ส่วนการเข้าโรงพยาบาลของผู้ที่เชื่อว่าติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มจาก 65 คนเป็น 85 คน
กลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุฉุกเฉิน (เอสเอจีอี) ระบุ เกือบจะแน่นอนแล้วว่าแต่ละวันมีประชาชนติดโอมิครอนหลายแสนคน และยังไม่ได้บันทึกตัวเลข หากไม่ออกมาตรการคุมโควิดให้เข้มงวดขึ้น “ตัวแบบชี้ว่าโรงพยาบาลในอังกฤษจะต้องรับผู้ป่วยวันละ 3,000 คนเป็นอย่างน้อย”
ทั้งนี้ หากเทียบกับเดือน ม.ค.2564 ตอนที่อังกฤษเร่งโครงการฉีดวัคซีน จำนวนคนเข้าโรงพยาบาลทั้งยูเคเพิ่มขึ้นเกิน 4,000 คนต่อวัน
ที่ปรึกษากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินความรุนแรงของโอมิครอน แต่ถ้าลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา “การติดเชื้อที่สูงมากจะสร้างแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญให้กับโรงพยาบาล”
ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนประกาศ “สาธารณภัย” เพื่อเปิดช่องให้หน่วยงานรัฐประสานงานกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น และรัฐบาลกลางเข้าสนับสนุนได้มากขึ้น เนื่องจากการเข้าโรงพยาบาลเพราะโควิดในกรุงลอนดอนสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จำนวนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลางานเพิ่มขึ้นด้วย “นี่คือตัวบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์”
เมื่อเดือน ม.ค. ข่านซึ่งมาจากพรรคแรงงาน ฝ่ายค้าน เคยประกาศสาธารณภัยมาแล้ว ตอนที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากจนเสี่ยงล้นโรงพยาบาล
ตัวเลขจากทางการเมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ประเมินว่า จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในกรุงลอนดอนเป็นโอมิครอนกว่า 80%
ด้านหน่วยงานสาธารณสุขเยอรมนี รวมอังกฤษเป็นอีกหนึ่งประเทศเสี่ยงโควิดสูง ต้องใช้ข้อจำกัดการเดินทางเข้มงวดยิ่งขึ้นตั้งแต่เที่ยงคืนสิ้นวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.)ผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษจะต้องถูกกักตัวสองสัปดาห์ไม่ว่าฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม