ดาวโจนส์บวก 90 จุดเหตุนลท.คลายกังวลโอมิครอน
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(29ธ.ค.)ปรับตัวขึ้น 90 จุด โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 90.42 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 36,488.63 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 6.71 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 4,793.06 จุดถือเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 15.51 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 15,766.22 จุด
ทั้งนี้ นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นสนับสนุนคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) ที่ให้ลดระยะเวลาในการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ เหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน โดยนายแพทย์เฟาชีระบุว่า การลดระยะเวลากักตัวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น
ผลการศึกษาจากแอฟริกาใต้ อังกฤษ และสกอตแลนด์บ่งชี้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น
นอกจากนี้ ผลการศึกษาจากแอฟริกาใต้ยังระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยให้ร่างกายเพิ่มภูมิต้านทานต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 20% จากต้นปีนี้ และนักลงทุนคาดว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงดีดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471