โพลชี้ “ชาวมะกัน” ห่วงปัญหาปากท้องมากกว่าโควิด
เปิดผลการสำรวจประชาชนสหรัฐ แสดงความกังวลสภาวะเศรษฐกิจอย่างหนัก ถึงขั้นแซงหน้าความกลัวโรคระบาดโควิด-19 ท่ามกลางสถานการณ์ล่าสุด บรรดาร้านขายของชำในสหรัฐตกอยู่ในภาวะขาดแคลนสินค้า
ในผลสำรวจฉบับใหม่พบประชาชนสหรัฐ กลุ่มสำรวจเพียง 37% มองว่าการควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็น 1 ใน 5 พันธกิจสำคัญสูงสุดที่รัฐบาลควรจัดการในปี 2022 แม้การระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน จะพุ่งสูงทั่วประเทศ
การสำรวจโดยศูนย์วิจัยแอสโซซิเอเทด เพรส-นอร์ก เซนเตอร์ ฟอร์ พับลิก แอฟแฟร์ รีเสิร์ช (Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research) ระบุว่า กลุ่มสำรวจเลือกเศรษฐกิจเป็นพันธกิจสำคัญอันดับหนึ่งถึง 68% หลังราคาผู้บริโภคในสหรัฐ พุ่งขึ้น 6.8% เมื่อเทียบปีต่อปี ภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ
ผลสำรวจดังกล่าว เผยว่าโรคโควิด-19 ถูกแซงหน้าด้วยกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งก่อนที่ 53% ของกลุ่มสำรวจเลือกให้โรคโควิด-19 เป็นพันธกิจสำคัญอันดับหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้านสำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่าโรคติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับสภาพอากาศเลวร้าย ส่งผลให้ร้านขายของชำในสหรัฐ ขาดแคลนสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ปัญหาขาดแคลนสินค้าทั่วประเทศส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ เนื้อสัตว์ และสินค้าบรรจุหีบห่อ อาทิ ธัญพืช
เจฟ ฟรีแมนประธานและซีอีโอของคอนซูเมอร์ แบรนด์ส แอสโซซิเอชัน (Consumer Brands Association) ของสหรัฐ กล่าวว่า ปกติแล้ว ร้านขายของชำในประเทศ จะมีสัดส่วนขาดแคลนสินค้า 5-10% ของสินค้าทั้งหมด แต่ขณะนี้อัตราดังกล่าวพุ่งไปอยู่ที่ราว 15% แล้ว
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์