โอมิครอนทุบเศรษฐกิจจีนปี 64 โต 8.1% อ่อนแรงไตรมาสสุดท้าย

โอมิครอนทุบเศรษฐกิจจีนปี 64 โต 8.1% อ่อนแรงไตรมาสสุดท้าย

จีดีพีจีนที่เติบโตท้าทายโควิดกลับชะลอตัวลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับเศรษฐกิจโลก เพราะโอมิครอน ด้านโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4.3%

วานนี้ (17 ม.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) รายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการ เศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขยายตัว 8.1% ในปี 2564 ผลจากการฟื้นตัวจากโควิด-19 ระบาดได้อย่างแข็งแกร่ง เหนือผลการสำรวจของสำนักข่าวเอเอฟพีที่ 8.0%

อย่างไรก็ตาม ความเติบโตโดยมากมาจากครึ่งปีแรก ที่ต่อมาเศรษฐกิจจีนสะเทือนหลายระลอกไปจนถึงสิ้นปี 2564 ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 กลับมาระบาดอีก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงเรื่อยๆ และชุดมาตรการสุดโต่งควบคุมธุรกิจบางภาคส่วน

หากพิจารณาเป็นรายไตรมาส จีดีพีจีนไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เติบโต 4% ต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปีลดลงจาก 4.9% ในไตรมาสสาม
 

หนิง จี้เจ้อ โฆษกเอ็นบีเอสเตือน “เศรษฐกิจในประเทศตกอยู่ภายใต้แรงกดดันสามเท่า ทั้งอุปสงค์หดตัว ซัพพลายขาดแคลน และความคาดหวังอ่อนแรง”

นอกจากนี้  เอ็นบีเอสยังรายงานอัตราการเกิดของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 7.52 คนต่อ 1,000 คน นักวิเคราะห์เตือนว่า การเป็นสังคมผู้สูงอายุเร็วเกินคาดยิ่งทำให้เศรษฐกิจน่ากังวลมากขึ้น แม้จีนจะเลิกใช้นโยบายลูกคนเดียวมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ไม่ได้ทำให้เด็กเกิดมากอย่างที่หวัง เนื่องจากวิธีคิดของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้งราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงทำให้คู่แต่งงานหนุ่มสาวจำนวนมากไม่อยากมีลูกมากกว่าหนึ่งคน

ในวันเดียวกัน ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 0.10% สู่ระดับ 2.85%  เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินจำนวน 2 แสนล้านหยวน (3.15 หมื่นล้านดอลลาร์)
 

ด้าน โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4.3% จากเดิมที่ระดับ 4.8% โดยระบุว่ารัฐบาลจีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ข้อดี - ข้อเสีย โควิดเป็นศูนย์

นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนทำให้ประชาชนในประเทศกลับไปใช้ชีวิตได้แทบเป็นปกติ โรงงานจีนส่วนใหญ่ไม่ต้องปิดในช่วงที่ความต้องการระหว่างประเทศพุ่งสูง เพราะเขตเศรษฐกิจหลักหลายแห่งออกมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดและให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน

แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงส่วนหนึ่งจากการระบาดที่เกิดขึ้นหลายระลอก ทางการจีนจึงต้องออกมาตรการควบคุมอีกครั้งประกอบกับมาตรการสกัดโควิดแบบเหวี่ยงแหทำลายความต้องการของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งในการควบคุมหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์และการเก็งกำไรของผู้บริโภค ก่อให้เกิดคลื่นกระแทกในภาคส่วนนี้ที่เคยเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนมายาวนาน

“เศรษฐกิจถูกฉุดรั้งจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับโควิดระบาดใหม่ทำให้ต้องออกข้อจำกัดในพื้นที่ที่พบการติดเชื้อ ส่วนทั่วประเทศก็ต้องระมัดระวังอย่างสูง สิ่งเหล่านี้กระทบต่อความต้องการในภาคบริการเป็นพิเศษ” ทอมมี อู๋ จากออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิกให้ความเห็น

ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 ในจีนเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนหลัง แต่ยังน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานโลก วานนี้จีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 ประชาชนหลายล้านคนถูกล็อกดาวน์ จำกัดการเดินทาง หรือปูพรมตรวจโควิด

กรุงปักกิ่งอยู่ในภาวะเฝ้าระวังอย่างสูง เพราะกำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวใน “ระบบปิด” ข้อจำกัดใหม่ที่ออกมากำหนดให้ต้องตรวจโควิดทั้งก่อนและหลังมาเมืองหลวง

ที่ซีอานเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ประชาชน 13 ล้านคนถูกล็อกดาวน์มาเกือบหนึ่งเดือน ไม่เพียงเท่านั้นโควิดยังเล่นงานเมืองท่าและศูนย์กลางอุตสาหกรรมของจีนอีกหลายเมือง

พื้นที่อุตสาหกรรมหลายแห่งก็มีปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าด้วย ทั้งจากความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และราคาพลังงานพุ่งสูงในครึ่งหลังของปี 2564

ในเดือน ธ.ค. ผลผลิตอุตสาหกรรมเติบโตเกินคาด 4.3% ทั้งปีโต 9.6% แต่ยอดขายค้าปลีกโตช้าลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 1.7% จาก 3.9% ในเดือน พ.ย. เนื่องจากข้อจำกัดโควิดนานัปการบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ไอริส ปัง นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทไอเอ็นจี กล่าวว่า ยังมีปัญหาคอขวดในการผลิตรถยนต์ด้วย แนวโน้มนี้มีทีท่าคงอยู่ต่อเนื่องเพราะอุปทานชิพอุปกรณ์สำคัญสำหรับการผลิตยังคงขาดแคลน ส่วนอัตราว่างงานในเมืองเดือน ธ.ค.ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5.1%

“การเติบโตทางเศรษฐกิจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งโอมิครอนระบาดในจีนยิ่งซ้ำเติมความเสี่ยงขาลง” จาง จี้เว่ย หัวหน้านักเศรษศาสตร์บริษัทพินพอยท์แอสเสทแมเนจเมนท์กล่าว

ส่วนเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงซึ่งปกติเป็นช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายใช้สอย ชาวจีนหลายร้อยล้านคนเดินทางกันคึกคักทั่วประเทศแต่ปีนี้ดูท่าจะเงียบเหงาอีกปี คนงานหลายคนได้รับแจ้งไม่ให้เดินทางเนื่องจากโควิดระบาด

วานนี้เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเดินทางเนื่องในวันหยุดตรุษจีน 1 ก.พ. หลายเมืองจึงต้องเฝ้าระวังระดับสูง เช่นเมืองลั่วหยางทางภาคกลางและเมืองจี้หยางทางภาคใต้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (16 ม.ค.) ให้นักเดินทางต้องเปิดเผยไทม์ไลน์ 3 วันก่อนเดินทางมาถึงต่อชุมชน นายจ้าง และโรงแรมที่พัก

ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเมืองหยูหลินทางตะวันตกเฉียงใต้ประกาศให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองกรอกเอกสารผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าหนึ่งวัน เช่น ใบรับรองสุขภาพและรายละเอียดการเดินทาง

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากรุงปักกิ่งและเมืองเสิ่นเจิ้นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางภาคใต้ของจีน ต่างตรวจพบการติดเชื้อโอมิครอนในชุมชน วานนี้ปัง ซินกั๋ว เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ไม่ควรตัดความเป็นไปได้ที่ว่าการติดเชื้อโอมิครอนในกรุงปักกิ่งเป็นการติดเชื้อผ่านสินค้านำเข้า

หลี่ อัง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลปักกิ่งกล่าวว่า โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งรับผู้ติดเชื้อโอมิครอน 9 คน ในจำนวนนี้ 6 คนยังคงรักษาตัว แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลเมื่อใด หรือทำไมถึงไม่เปิดเผยก่อนหน้านี้