'อินโดนีเซีย'ผ่านกฎหมายย้ายเมืองหลวง

วานนี้ (18 ม.ค.) รัฐสภาอินโดนีเซียเห็นชอบร่างกฎหมายทุนแห่งรัฐฉบับใหม่ กำหนดกรอบกฎหมายจัดหาเงินทุนและการบริหารให้กับเมกะโปรเจคมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด

นายซูฮาร์โซ โมโนอาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนแถลงหลังกฎหมายผ่านสภาแล้วว่า เมืองหลวงใหม่จะเป็นศูนย์กลางการทำงานและเป็นสัญลักษณ์แห่งอัตลักษณ์ของชาติ การย้ายเมืองหลวงช่วงแรกจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างปี 2565-2567 เริ่มต้นที่ถนนและท่าเรือก่อนเพื่อการเข้าถึงได้ง่าย โดยบางโครงการเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน

แผนการย้ายเมืองหลวงจากกรุงจาการ์ตาเคยมีประธานาธิบดีหลายคนพูดถึงมาก่อนแล้ว เมืองหลวงที่มีประชากร 10 ล้านคนมีปัญหาการจราจรติดขัดเรื้อรัง น้ำท่วม อากาศพิษ แต่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดย้ายเมืองหลวงไปจริงๆ ขณะที่ประธานาธิบดีโจโกวี ประกาศแผนนี้ครั้งแรกในปี 2562 แต่ต้องล่าช้าออกไปเพราะโควิด-19 ระบาด

ประธานาธิบดีเลือกชื่อเมืองหลวงใหม่ว่า “นูซันตารา” ในภาษาชวาหมายถึงหมู่เกาะอินโดนีเซีย แต่ยังไม่กำหนดกรอบเวลาสรุปโครงการ และกรุงจาการ์ตาจะยังคงเป็นเมืองหลวงต่อไปจนกว่าจะมีกฤษฎีกาของประธานาธิบดีประกาศการย้ายเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ ประเทศอื่นๆ ก็เคยย้ายเมืองหลวงมาแล้ว เช่น บราซิล เมียนมา

ด้านแถลงการณ์รัฐบาลระบุว่า การย้ายเมืองหลวงจะช่วยเสริมสร้างซัพพลายเชนให้แข็งแกร่ง ทำให้อินโดนีเซียอยู่ในชัยภูมิยุทธศาสตร์บนเส้นทางการค้าโลก การลงทุนไหลเข้า และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

สำหรับอินโดนีเซียที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำหนดวิสัยทัศน์ให้เมืองหลวงใหม่เป็น “ซูเปอร์ฮับคาร์บอนต่ำ” ซึ่งจะส่งเสริมภาคเภสัชกรรม สุขภาพ และเทคโนโลยี ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในพื้นที่อื่นนอกเหนือจากเกาะชวา

แต่นักวิจารณ์กล่าวว่า รัฐบาลเร่งออกกฎหมายย้ายเมืองหลวงโดยทำประชาพิจารณ์และประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพียงน้อยนิด

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันจันทร์ (17 ม.ค.) นายซาน มุสตอฟา รองประธานคณะกรรมาธิการพิเศษดูแลร่างกฎหมาย กล่าวว่า นูซันตาราจะบริหารโดยหัวหน้าสำนักงานตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี คนหนึ่งที่ถูกพิจารณาให้มานั่งตำแหน่งนี้คืออดีตผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา “บาซูกี จาฮาจา ปูร์นามา” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “อาฮก”