ดาวโจนส์ทะยาน 596 จุดขานรับ'พาวเวล'ส่งสัญญาณขึ้นดบ. 0.25%

ดาวโจนส์ทะยาน 596 จุดขานรับ'พาวเวล'ส่งสัญญาณขึ้นดบ. 0.25%

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ (2มี.ค.)พุ่งขึ้น 596 จุด โดยหุ้นปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ โดยไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 596.40 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 33,891.35 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.86% ปิดที่ 4,386.54 จุดและดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 1.62% ปิดที่  13,752.02 จุด  

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ร่วงลง 5.91% สู่ระดับ 31.35
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด โดยได้ปัจจัยบวกจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยสัญญาล่วงหน้าเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นเหนือระดับ 112 ดอลลาร์

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งเหนือ 113 ดอลลาร์ ขานรับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนครั้งที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เหลือเพียง 5 ครั้งๆ ละ 0.25% จากเดิม 7 ครั้ง โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในยูเครน

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งในปีนี้ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวแตะระดับ 1.25%-1.5% ในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00%-0.25%
ด้านนายพาวเวลส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ขณะที่จับตาวิกฤตการณ์ในยูเครน

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต

"สิ่งบ่งชี้สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐมีความไม่แน่นอนอย่างมาก และเราจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" นายพาวเวลกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้

นายพาวเวล กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% แต่เฟดก็เปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงขึ้น หากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

นายพาวเวลยังระบุว่า เฟดคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในปีนี้ ขณะที่ภาวะคอขวดของอุปทานผ่อนคลายลง

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 509,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าลดลง 301,000 ตำแหน่ง

ภาคบริการมีการจ้างงาน 419,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงาน 56,000 ตำแหน่ง

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%