จีนตั้งเป้าจีดีพีปีนี้โตราว 5.5% ต่ำสุดรอบหลายสิบปี
นายกฯ จีนแถลง รัฐบาลตั้งเป้าจีดีพีปีนี้เติบโต “ราว 5.5%” ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากโควิด-19 ระบาด ตลาดอสังหาฯ ดิ่ง และความไม่แน่นอนของสงครามในยูเครน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนแถลงเปิดสภาประชาชนแห่งชาติจีน ระบุ “ประเทศของเราต้องรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายเพิ่มมากขึ้น เราจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้” เป้าหมายผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนปีนี้เติบโตที่ราว 5.5% อยู่บนพื้นฐานความจำเป็นในการรักษาการจ้างงานให้มีเสถียรภาพ ความจำเป็นขั้นพื้นฐานของการดำรงชีวิต และ “ป้องกันความเสี่ยง” เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต้อง “มาเป็นอันดับหนึ่ง”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่กำลังอิ่มตัวของจีนเติบโตชลอลงอย่างเห็นได้ชัดช่วงไม่กี่ปีหลัง จากที่เคยโตเร็วมากผลจากการปฏิรูปตลาดเมื่อสี่ทศวรรษก่อน บางปีจีดีพีโตเกิน 10% ด้วยซ้ำ
เมื่อเร็วๆ นี้จีนต้องเผชิญผลกระทบจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดิ่ง คณะกรรมการกำกับคุมเข้มภาคอสังหาฯ เทคโนโลยี และการเงิน รวมถึงโควิด-19 ระบาด รัฐบาลต้องใช้มาตรการสกัดโควิดยาวนานตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ปีที่แล้วรัฐกำหนดเป้าไว้ที่อย่างน้อย 6% แต่สุดท้ายโตได้ถึง 8.1% ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ไตรมาสสี่ชลอตัวลงเหลือเพียง 4% เท่านั้น
โดยปกติรัฐบาลปักกิ่งมักตั้งเป้าจีดีพีที่คิดว่าสามารถทำได้สูงกว่านั้น ในปี 2563 ไม่ได้ตั้งเป้าเนื่องจากยังไม่ทราบผลกระทบที่เกิดจากโควิดระบาด