ดาวโจนส์ดิ่ง 448 จุดกังวลน้ำมันพุ่งดันเงินเฟ้อหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(23มี.ค.)ร่วงลง 448 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 448.96 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 34,358.50 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 55.37 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 4,456.24 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 186.21 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 13,922.60 จุด
หุ้นพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นทะลุ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวเหนือ 113 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งหากจำเป็น เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมหนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง
นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
อย่างไรก็ดี นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และเป็นผู้นำคณะเจรจาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบากอย่างมาก
"เรายังคงเจรจาผ่านระบบออนไลน์ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝ่ายยูเครนมีจุดยืนและหลักการที่ชัดเจน" นายโปโดลยักกล่าว
ทางด้านรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนในการเจรจา และระบุว่าสหรัฐกำลังพยายามทำให้รัสเซียและยูเครนอยู่ในสถานะสงครามให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่ประสบความคืบหน้าใดๆ แม้ก่อนหน้านี้มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในข้อตกลงหยุดยิง