ผลศึกษาชี้ ‘ภูมิคุ้มกันไฮบริด’ ป้องกันโควิดดีที่สุด
การศึกษาใหม่สองชิ้นระบุ คนที่มี “ภูมิคุ้มกันลูกผสม” จากการฉีดวัคซีนครบแล้วและเคยติดเชื้อโควิด-19 มีภูมิคุ้มกันไวรัสแข็งแกร่งที่สุด
หลังจากโควิด-19 ระบาดใหญ่มาสองปี ประชาชนติดเชื้อเกือบ 500 ล้านคน ฉีดวัคซีนแล้วหลายพันล้านคน ผลการศึกษาใหม่ทั้งสองชิ้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนในหมู่คนที่มีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติหลังจากหายป่วยแล้ว
งานวิจัยชิ้นหนึ่งตีพิมพ์ในวารสารโรคติดเชื้อแลนเซ็ต วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพจากประชาชนกว่า 200,000 คนในปี 2563 และ 2563 ที่บราซิล ประเทศที่โดนโควิดเล่นงานหนัก ผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองของโลก
ผลศึกษาพบว่า คนที่ติดโควิดแล้ว วัคซีนไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้าป้องกันการเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต 90% โคโรนาแวคของจีนป้องกันได้ 81% วัคซีนเข็มเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันป้องกันได้ 58%
“วัคซีนทั้งสี่ชนิดพิสูจน์แล้วว่าให้การปกป้องได้พิเศษมากสำหรับคนที่เคยติดโควิด-19 มาก่อน” จูลิโอ โครดา จากมหาวิทยาลัยมาโต กรอสโซ โด ซุล ผู้เขียนรายงานให้ความเห็น
ประโมท กุมาร การ์ก จากสถาบันปริวรรตวิทยาศาสตร์และสุขภาพแห่งอินเดีย แสดงความเห็น “ภูมิคุ้มกันลูกผสมเนื่องจากติดเชื้อโดยธรรมชาติและการฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเป็นปทัสถานโลก และอาจให้การป้องกันระยะยาวต่อสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมา”
การศึกษาชิ้นหนึ่งใช้ข้อมูลทั่วประเทศสวีเดนถึงเดือน ต.ค.2564 พบว่า คนที่หายจากโควิดมีระดับการป้องกันติดเชื้อซ้ำได้นานถึง 20 เดือน และคนที่มีภูมิคุ้มกันไฮบริดฉีดวัคซีนแล้วสองโดสมีความเสี่ยงติดเชื้อซ้ำต่ำกว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติอีก 66%
พอล ฮันเตอร์ อาจารย์แพทย์มหาวิทยาลัยอีสต์แอนเจลีย ผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษากล่าวกับเอเอฟพีว่า “เป็น 20 เดือนที่ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติปกป้องได้ดีมากยิ่งกว่าที่เราคาดหวังจากการฉีดวัคซีนเดิมสองโดส” แต่เขาเตือนให้ระวังเพราะการศึกษาทั้งสองชิ้นเสร็จสิ้นก่อนที่โอมิครอนกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก ภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
การศึกษาในกาตาร์เผยแพร่สัปดาห์ก่อนผ่านmedRxivเว็บไซต์ก่อนตีพิมพ์ให้มุมมองเรื่องการปกป้องจากภูมิคุ้มกันไฮบริดต่อโอมิครอน พบว่า การฉีดวัคซีนสามโดสปกป้องการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แบบแสดงอาการได้ 52% แต่ถ้าผู้ป่วยเคยติดเชื้อมาก่อนตัวเลขพุ่งขึ้นเป็น 77%
งานชิ้นนี้ที่ยังไม่ให้เพื่อนร่วมวงการทบทวน พบ “ภูมิคุ้มกันไฮบริดจากการเคยติดเชื้อมาก่อนและการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ให้การคุ้มครองต่อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 ได้ดีที่สุด”