ศรีลังกาประกาศ‘ภาวะฉุกเฉิน’ รับมือประท้วงเดือด
ประธานาธิบดีศรีลังกาประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบหลายสิบปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เมื่อคืนวันศุกร์ (1 เม.ย.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ของศรีลังกา ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อรักษาความมั่นคงของสาธารณะ ปกป้องความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม และสร้างหลักประกันดูแลสินค้าและบริการจำเป็น
ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ประชาชนหลายร้อยคนประท้วงแล้วปะทะกับตำรวจและทหารที่นอกทำเนียบประธานาธิบดีชานกรุงโคลอมโบ ตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาและน้ำสลายการชุมนุม หลังจากผู้ประท้วงจุดไฟเผารถตำรวจและทหารหลายคัน ประชาชนถูกจับกุม 53 คน ทางการประกาศเคอร์ฟิวในและรอบเมืองหลวงเมื่อวันศุกร์ เพื่อสกัดการประท้วงอันมีสาเหตุมาจากประชาชนขาดแคลนสิ่งของจำเป็น เช่น พลังงาน และสินค้าอื่นๆ
เจ้าหน้าที่่รายหนึ่งเผยว่า ตำรวจบาดเจ็บอย่างน้อย 24 นายจากเหตุปะทะ แต่ไม่บอกถึงจำนวนผู้ประท้วงที่ได้รับบาดเจ็บ
ปัจจุบันเกาะศรีลังกาประชากร 22 ล้านคนกำลังตกอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ต้องดับไฟวันละ 13 ชั่วโมงขณะที่รัฐบาลดิ้นรนหาเงินมาจ่ายค่าพลังงานนำเข้า
นายประสานนา รัตนาตุงเก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเตือนว่า การประท้วงแบบนั้นมีแต่ทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจ
“ปัญหาหลักที่ศรีลังกากำลังเผชิญคือขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ และธรรมชาติของการประท้วงจะทำร้ายการท่องเที่ยวส่งผลต่อเศรษฐกิจตามมา” รัฐมนตรีกล่าว
ด้านนางสาวฮานา ซิงเกอร์-แฮมดี ตัวแทนสหประชาชาติประจำศรีลังกา เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุปะทะอดทนอดกลั้น เธอทวีตข้อความว่ายูเอ็นจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง
ตลาดหลักทรัพย์หยุดการซื้อขายเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ หลังจากดัชนีหุ้นบลูชิพร่วงลง 10% จากวันก่อนหน้า