จับฝูง BMW M ลงแทร็ค M4 เนียน X4 M ตื่นตัว M340i สมดุล M760Li ผู้บริหารควรขับเอง
M เป็นรหัสรถสมรรถนะสูงของ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ที่สามารถใช้งานในเส้นทางท้องถนนทั่วไปได้ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่พกความแรง ความสปอร์ตเอาไว้มากกว่ากันนั่นเอง แต่แน่นอนถ้ามันมีโอกาสลงแทร็ค ความตื่นตัวก็คงจะไม่ธรรมดาทั้งรถและคน
บีเอ็มดับเบิลยู เลือก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่แนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ เป็นเวทีให้ M 4 รุ่น ได้ขยับแข้งขยับขา ในกิจกรรม "BMW Driving Challenge 2022" ทั้ง X4 M Competition, M4 Competition Coupe, M340i xDrive และ M760Li xDrive
X4 M Competition เอสยูวี คูเป้ ค่าตัว 8,599,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard
ตัวรถถือว่าเป็นการดึงเอานวัตกรรมของ M3 และ M4 มาใช้ เช่น เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบา ทำให้สามารถสร้างแรงบิดและกำลังรอบเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น และยังนำระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ที่ผ่านการทดสอบบนสนามแข่งมาใช้
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive แต่จะส่งกำลังไปล้อหน้าในบางจังหวะเท่านั้น ทำให้สามารถรับรู้ความสนุกเหมือนรถขับเคลื่อนล้อหลังได้ โดย M xDrive ทำงานร่วมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control)
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ระบบเบรก M Compound Brake เสริมความเข้มด้วย คาลิเปอร์สีดำ
ท่อไอเสีย 4 ท่อ 2 คู่ ใประกบอยู่ทั้งสองข้างของดิฟฟิวเซอร์ ล้ออัลลอยโทนสีดำ 21 นิ้วแบบ M light alloy ดับเบิล สโปค แบบสลับสี
M4 Competition Coupe รถในรูปทรงคูเป้ ค่าตัว 9,999,000 บาท พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ X4 M Competition
เน้นออกแบบโครงสร้างตัวถัง แพลตฟอร์มให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นคงของตัวรถ ซึ่งมีส่วนอย่างมากต่อการยึดเกาะเมื่อต้องขับขี่ที่ความเร็วสูง ช่วงล่าง Adaptive M ช็อค แอบซอร์เบอร์ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ระบบ M Servotronic ช่วยปรับกำลังพวงมาลัยให้เหมาะสมกับความเร็วแต่ละช่วงของการขับขี่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ M Dynamic Mode ที่น่าจะถูกใจสายดริฟท์
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ M Drive Professional ที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเพิ่มความเร้าใจเมื่อขับขี่ในสนามแข่ง มาพร้อมระบบ M Traction Control ที่ปรับระดับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีได้ 10 ระดับตามความต้องการของผู้ขับขี่ก่อนสั่งการให้ DSC ทำงาน
นอกจากนี้ระบบ M Drift Analyser สามารถบันทึกและวิเคราะห์คะแนนความแม่นยำในการเข้าโค้งของผู้ขับขี่ ระบบ M Laptimer ช่วยบอกเวลาการขับขี่ต่อรอบ รวมถึงข้อมูลการขับขี่อื่นๆ
M340i xDrive ซีดานตัวแรง ราคา 3,999,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard จัเป็นรถที่เครื่องยนต์ทรงพลังที่สุดในซีรีส์ 3 ระบบxDrive ที่กระจายกำลังแบบแปรผันระหว่างเพลาหน้าและเพลาท้ายตลอดเวลา แต่เน้นส่งกำลังไปล้อหลัง เป็นหลัก
ช่วงล่างออกแบบมาเฉพาะตัวแบบ Adaptive M ควบคุมด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็ว (Variable Sport Steering)
การขับขี่มีหลายรูปแบบ M760Li xDrive ไม่ได้ขับมากนัก แต่เป็นการลองดูประสิทธิภาพเครื่องยนต์ การออกตัว และความคล่องตัวของรถคันใหญ่กับการขับสลาลอม
เครื่องยนต์ วี 12 ขนาด 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร ที่สเปคระบุ 0-100 กม./ชม. 3.7 วินาที สร้างแรงกระชากได้ดุดันเมื่อกดคันเร่งเต็มที่เมื่ออกตัว รถพุ่งไปข้างอย่างรวดเร็ว เป็นรถลักซ์ชัวรีที่หากมีผู้บริหารนั่งอยู่ด้านหลัง พนักงานขับรถห้ามเพลินกับคันเร่งเด็ดขาด
และแม้มีความยาวมากกว่า 2 เมตร แต่ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง บวกกับช่วงล่างที่ปรับให้เหมาะกับการขับขี่ทำให้รถมีความคล่องตัวสูงทีเดียว
ขณะที่ X4 M Competition และ M4 Competition Coupe เป็นการลองขับในแทรค ประมาณครึ่งสนาม เลือกครึ่งที่มีทางโค้งเยอะๆ เริ่มจากโค้ง 5 ถึง โค้ง 12 และตัดกลับเข้าโค้ง 5 อีกรอบ
ทั้ง 2 รุ่น มีพื้นฐานใกล้เคียงกัน เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน แรงม้าแรงบิดเท่ากัน รีดสมรรถนะได้ใกล้เคียงกันมาก โดยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. M4 Competition Coupe ทำได้เร็วกว่าเล็กน้อย
จุดเด่นคือ จังหวะการเปลี่ยนความเร็วที่ทำได้โดดเด่น ออกจากโค้งได้แบบที่เรียกว่าทะยานออกไป ขณะที่การทรงตัว การยึดเกาะถนนทำได้ดีทั้ง 2 รุ่น
แต่ก็มีความต่างให้รับรู้ได้ กับการเข้า-ออก โค้งด้วยความเร็ว โดย M4 นั้่นเหมือนคนอยู่ในกรอบ เข้า-ออก ได้แม่นยำ สามารถวางแผนสำหรับโค้งหน้าได้เลย
พวงมาลัยน้ำหนักดี กระชับ แม่นยำ เหมาะกับการขับขี่แบบโหดๆ เช่นนี้
ขณะที่ X4 M สามารถขับในรูปแบบเดียวกับ M4 ได้ เพียงแต่รถจะมีอาการดิ้นเล็กน้อยในบางจังหวะให้แก้ จากความสูงของรถที่มากกว่า แต่ถามว่าเป็นปัญหากับการควบคุมไหม ตอบว่าไม่ และบางคนชอบอารมณ์แบบนี้ เพราะทำให้ขับสนุกยิ่งขึ้น พูดง่าย M4 ขับได้ง่ายในแทรค แต X4 M เติมอารมณ์เด็กซนๆ เข้าไป อีกนิด
M340i xDrive เป็น M ที่ผลิตในประเทศ ทำให้ราคาคบหากได้ง่าย เป็นรถที่ได้ลองขับมากที่สุด ทั้งการใช้แข่งขันจิมคาน่า และการลองขับแบบเต็มรอบสนามช้างฯ หลายรอบ
เป็นรถที่มีความแรง และมีความสมดุลดี ควบคุมรถได้ง่าย เช่น การแข่งจิมคาน่าที่ต้องขับแบบสลาลอม การคุมรถในรอบวงเวียน และการเปลี่ยนช่องทางแบบรวดเร็ว
การตอบสนองคันเร่ง เครื่องยนต์ กับความแม่นยำของพวงมาลัย ความสมดุลของตัวรถ ทำให้จังหวะผ่านกรวยซ้าย-ขวา สลับฟันปลา ทำได้รวดเร็ว รถเกาะติดเบียดไปกับกรวย ไม่บานออกไปให้เสียการทรงตัว
และเมื่อขับเต็มสนามช้าง เครื่องยนต์ยิ่งยืนยันถึงกรตอบสนองได้รวดเร็ว การเรียกกำลังออกมาใช้งานบ่อยๆ ช่วงออกจากโค้ง ทำได้ทันอกทันใจ
การยึดเกาะถนนดี ทำให้สามารถใช้ความเร็วในการเข้า-ออกโค้งได้ดี และเลี้ยงไลน์ได้ตามที่ต้องการ เข้าจุดไหน ออกจุดไหน ไม่ต้องไปแก้อาการกัน
อาการอันเดอร์สเตียร์ หรือ โอเวอร์สเตียร์ เกิดขึ้นน้อย แต่ถ้ามีให้รู้สึกบ้าง ก็แก้ไขได้ไม่ยากอะไรด้วยตัวรถเอง ผมแค่ขยับพวงมาลัยเล็กน้อยเท่านั้น
และสิ่งไม่พูดถึงไม่ได้ สำหรับ M ทุกรุ่น ก็คือ เรื่่องของเบรก ที่ต้องทำงานหนักรองรับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ร้อนแรง โดยระยะเบรกอยู่ในวิสัยที่เราสารถแต่งตัวรถเพื่อเข้าโค้งได้ง่าย และแม้จะใช้เบรกหนักๆ หลังจากที่รถอยู่ในความเร็วสูง อาการของรถนิ่ง จะมีรู้สึกดิ้นเล็กน้อย ก็คือช่วงโค้ง 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ทำความเร็วได้สูงของสนาม เพราะกดคันเร่งได้ต่อเนื่องตั้งแต่ออกจากโค้ง 1 ผ่านโค้ง 3 มาถึงโค้ง 3 และที่สำคัญโค้งนี้จะเป็นทางลงเนินเล็กน้อย
โดยสรุป จากการลองขับตระกูล M ทุกรุ่น ซึ่งล้วนแต่มีความแรง ในสนามที่ทำความเร็วได้ และมีโค้งดุๆ หลายโค้ง กับพวกเราที่ไม่ใช่นักแข่งรถอาชีพ แต่ก็สามารถควบคุมรถได้ไม่ยาก และได้ความสนุกแถมมาครับ