โตโยต้า ยาริส เอทีฟ คว้า Thailand Car of The Year 2022
สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. ประกาศผลการตัดสินรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2565 หรือ Thailand Car of The Year 2022 โดยปีนี้มีรถยนต์เข้ารอบสุดท้าย 7 รุ่น
สำหรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2565 หรือ Thailand Car of The Year 2022 เป็นกิจกรรมที่สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนปีนี้ เป็นการคัดเลือกรถยนต์รุ่นใหม่ แบบ All New Model ที่เปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 และจะต้องเป็นรถยนต์ผลิต และประกอบในประเทศ หรือในกลุ่มประเทศอาเซียน จากทุกแบรนด์ ทุกเซ็กเมนท์ และจะมีเพียง 1 คันเท่านั้น ที่จะได้รางวัลนี้ตามเกณฑ์กติกาที่กำหนดไว้
โดยปีนี้มีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผ่านเกณฑ์ เข้าสู่การพิจาณารวท 13 รุ่น โดยสรยท. ตั้งคณะอนุกรรมการมี สุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมฯ เป็นประธาน
โดยรถยนตฺ์ที่เข้าเกณฑ์การพิจารณา ส่งให้กับสมาชิกสมาคมฯ ลงคะแนนแบบออนไลน์ คัดเลือกจำนวนกึ่งหนึ่ง เข้าสู่รอบตัดสิน ซึ่งรถยนต์ทั้งหมด 7 รุ่นที่ได้รับคะแนนสูงสุด ประกอบด้วย
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์
- ฟอร์ด เรนเจอร์
- ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี
- เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส
- เอ็มจี วีเอส เอชอีวี
- โตโยต้า เวลอซ
- โตโยต้า ยาริส เอทีฟ
ส่วนการตัดสินรอบสุดท้าย โดยเป็นการทดสอบภาคสนาม โดนใช้กติกา และเงื่อนไขการให้คะแนนรูปแบบเดียวกับการคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งยุโรป และรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งญี่ปุ่น
และผลสรุป ปรากฏว่า โตโยต้า รุ่น ยาริส เอทีฟ ได้รับการลงคะแนนสูงสุด คว้ารางวัล Thailand Car of The Year 2022 ไปครอง
สุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้มอบรางวัล กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมกับ สรยท. และสนับสนุนการจัดงานมอบรางวัลนี้ ให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อขวัญและกำลังใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ที่ทันสมัย ส่งต่อถึงมือผู้ใช้ ผู้บริโภคชาวไทย และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ
“กระทรวงฯ พร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการ ผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์เดินหน้าสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในเวทีโลก และตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นหน้าตาของประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้เศรษฐกิจหมุนเวียนและการจ้างงานเป็นอันดับต้นๆ ของทุกอุตสาหกรรม”