ลองขับ ORA 07 แรงเหลือๆ คุมง่าย แม้ท้ายดื้อไปบ้าง
ORA 07 เป็น อีวี สมรรถนะสูง และเป็น Flagship ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ ORA โดยเกรท วอลล์ มีเป้าหมายเจาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีสไตล์ ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร และก่อนจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการปลายเดือน พ.ย. 2566 เรามาลองดูอารมณ์ในการขับขี่กันก่อน
เกรท วอลล์ เข้ามาตลาดเมืองไทย พร้อมกับประกาศเป้าหมายธุรกิจที่สำคัญ 2 อย่าง หนึ่ง คือ 9 in 3 หรือ การเปิดตัวรถให้ได้ 9 รุ่น ภายใน 3 ปี และการขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) ภายใน 5 ปี
ล่าสุดเป้าหมายแรกกำลังจะลุล่วงคือ การเปิดตัวรถรุ่นที่ 9 “โอร่า 07” (ORA 07) รถ EV ช่วงปลายเดือนนี้ และก็คงเป็นอีกหนึ่งความหวังของเกรท วอลล์ ในการให้มันมีส่วนผลักดันเป้าหมายการเป็นผู้นำตลาด xEV ในอนาคต
โอร่า 07 หรือ ก่อนหน้านี้มันคือ แกรนด์แคท หรือ ไลท์นิ่ง ในตลาดประเทศจีน เป็นรถแบบซีดาน 4 ประตู คูเป้ แนวเรโทร จัดอยู่ในกลุ่มตลาด ดี-เซ็กเมนต์
การออกแบบ ยังคงยึดแนวทางหลักคือ ย้อนยุคเล็กน้อย แต่ก็เติมเรื่องของเทคโนโลยี และความพรีเมียมเข้าไปหลายอย่าง โดยเฉพาะการออกแบบภายในนั้น ถือว่าดูดีเลยทีเดียว
ภายนอกเพิ่มลูกเล่นด้านหน้าให้ดูเป็น 3 มิติ ด้านข้างพื้นผิวตัวถังเล่นกับเส้นสายที่ชัดเจน 2 เส้นหลัก ให้มีส่วนเว้าส่วนนูน และสำหรับรุ่น Performance เพิ่มลูกเล่นกับล้ออัลลอยที่มีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากเท้าแมว
ขณะที่ด้านท้ายรถเน้นความโค้งมน ดูพรีเมียม และซ่อนสปอยเลอร์เอาไว้ในโครงสร้างตัวถังมิดชิด ซึ่งเจ้าของรถสามารถตั้งได้ว่าจะให้มันยกขึ้นมาตลอดเวลาก็ได้ เพื่อเพิ่มแรงกดในขณะขับขี่ หรือ ให้มันซ่อนไว้อย่างนั้นตลอดเวลาก็ได้ เพื่อความสวยงาม และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงกด
หรือจะให้ระบบมันทำงานอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน โดยมันจะยกขึ้นมาเมื่อขับขี่ถึงความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. แต่ว่าสปอยเลอร์มีเฉพาะในรุ่น Performance เท่านั้น รุ่น Long Range ไม่มี
ขณะที่การออกแบบภายในดูดีเลย ดูหรู ดูแพง วัสดุดูดี และถ้าเป็นรุ่นตัวถังสีม่วงกับเทา จะได้ภายในสีส้มให้เลือกด้วย
เบาะหนังดูมีคุณภาพตัดเย็บดี และนั่งได้สบาย คอนโซลหน้าและการจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ดูสะอาดตา และมีลูกเล่นกับที่วางแก้วตรงคอนโซลกลางแบบมีฝาปิดในตัว ถ้าใส่แก้วหรือขวดก็กดลงไปได้เลย แต่ถ้าไม่ใส่ กดอีกครั้งมันจะมีแผ่นโผล่มาปิดช่องนั้นไว้
และใกล้ๆ กันเป็นช่องชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย แบบเสียบโทรศัพท์ลงไปแนวตั้ง ไม่ใช่แบบวางราบเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน
07 ออกแบบให้ภายในห้องโดยสารมีความเอนกประสงค์พื้นที่เก็บของหลายจุดทั้งกล่องใส่แว่นตาพื้นที่จัดเก็บบริเวณแผงคอนโซลกลางข้างประตูยังมีช่องเก็บของสำหรับวางขวดน้ำ ร่ม และสิ่งของอื่นๆ
หลังคาเป็นแบบพาโนรามิค ซันรูฟ ครอบคลุมทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง แต่ว่า เกรท วอลล์ เลือกติดตั้งคานขวางช่วงเสาบี เหตุผลเพื่อความปลอดภัย เช่น กรณีรถพลิกคว่ำ โดยคานขวางนี้รับน้ำหนักได้ 9.5 ตัน
ORA 07 มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ
- ขาว (Jade White)
- เทา (Amethyst Grey)
- สีพิเศษ ม่วง (Crystal Purple) ซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่น PERFORMANCE เท่านั้น
ส่วนสีภายใน มี สีน้ำตาลสำหรับรุ่นตัวถังสีสีม่วงกับสีเทา และสีภายในสีดำ สำหรับรุ่นตัวถังสีขาวกับสีเทา
ออปชั่นหลักๆ เช่นไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง ไฟสำหรบขับขี่กลางวันและไฟตัดหมอก LED
กระจกหน้าต่างแบบไร้กรอบหรือ frameless กระจกแบบ 2 ชั้น ช่วยซับเสียงรบกวนจากภายนอกไฟท้าย LED
หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วรองรับทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 10.25
และยังมีระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display)ลำโพง Infinity 11 ดอกระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับได้ 4 ทิศทางไฟตกแต่งห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชันแบบหลายสีและเป็นจังหวะ
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบนวด ระบบระบายอากาศ โดยเบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบดันหลัง พร้อมระบบจดจำตำแหน่งหรือ Memory Seat รวมถึง Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการเข้า-ออก ขณะที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับเบาะแยกได้แบบ 60:40
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง
ระบบเบรกทั้งทางตรงและทางแยกระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้างระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง360 องศา ทำงานด้วยกล้อง 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel
เซนเซอร์กะระยะ 6 จุดด้านหน้า และ 6 จุดด้านหลังระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่2 (SCM)โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
ระบบ Intelligent One Pedalเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม PM2.5 filter
การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียง(Voice Command)ช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม
นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมรถผ่านทางGWM Application ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง การปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ และระบบต
ขนาดตัวถังถ้าเทียบกับ บีวายดี ซีล แล้ว 07 ยาวกว่า 7.1 ซม. แคบกว่า 1.3 ซม. สูงกว่า 4 ซม. ระยะฐานล้อสั้นกว่า 5 ซม. แต่ก็ถือว่ากว้างขวาง นั่งสบายทั้งเบาะหน้า เบาะหลัง
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สัน ด้านหลังแบบมัลติลิงก์
ทีนี้มาดูเรื่องของการขับขี่เบื้องตัวว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง โดยรุ่นที่ลองขับคือ รุ่น Performance มอเตอร์ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- กำลังสูงสุด 408 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร
- สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 550 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็ม (NEDC)
เป็นการลองขับในสนามพีระ อินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต ที่มีความยาว 2.41 กม. รวม 4 รอบ แต่ไม่ได้ขับแบบเต็มรอบยาวๆ เป็นการขับแบบมีการตั้งสเตชั่นให้ได้ลองเรื่องของอัตราเร่ง สลาลอม การขับผ่านทางขรุขระ (เส้นเชือก) และเลนเชนจ์ ร่วมกับโค้งธรรมชาติของสนาม ทั้งโค้งกว้างๆ และโค้งแคบๆ อย่าง เอส 1 เอส 2
การออกตัวทำได้ทันอกทันใจ ตัวเลข 0-100 กม./ชม. 4.3 วินาที แม้จะช้ากว่าคู่แข่ง บีวายดี ซีล เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมือนกัน ซึ่งอยู่ที่ 3.8 วินาที
แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ไม่ได้เป็นการแข่งขัน ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร แค่นี้ก็จัดจ้าน และเชื่อว่าในการใช้งานจริง คงไม่ค่อยมีใครจะกดรถตัวเองแบบจมคันเร่งช่วงออกตัว
แต่สิ่งที่ได้จากการลองกระทืบคันเร่งแบบทันทีทันใดคือ จังหวะที่รถพุ่งจากจุดหยุดนิ่งนั้น นิ่งดีครับ ไม่มีอาการร่อน ส่าย หรือ ปัดเกิดขึ้น
อัตราเร่งเป็นจุดเด่นของรถ จากจังหวะการลองขับแบบสลาลอม กับการผ่อนและเร่ง และชัดเจนมากขึ้นกับการขับผ่านโค้งของสนามพีระฯ เมื่อผ่อนความเร็วหรือเบรกก่อนเข้าโค้ง เมื่่อผ่านกลางโค้งก็กดคันเร่งนำรถออกมาได้เร็ว แม้จะเป็นโค้งขึ้นเขา หรือโค้งไออาร์ซีที่ไต่เนินก็ตาม
อัตราเร่งจะกระฉับกระเฉงขึ้นเมื่อใช้โหมด Sport และขึ้นไปอีกเมื่อใช้ Sport+ ซึ่งมีปุ่มทางลัดให้กดที่พวงมาลัย และโหมดนี้ยังมาพร้อมกับเสียงจำลองของเครื่องยนต์เพิ่มความเร้าใจให้การขับมากขึ้น
ทั้งนี้ 07 มีโหมดการขับขี่ 6 โหมดเป็นไปอย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด WELL BEING โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล
ส่วนความเร็วเร็วสูงสุดที่ทำได้จากจุดหยุดนิ่งช่วงปลายทางตรงหน้ากริดสตาร์ทไปถึงก่อนโค้งเลงเนินที่ต้องเบรกก่อน อยู่ประมาณ 140-150 ครับ
ขณะที่การควบคุมรถ การทรงตัว อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ จากจังหวะการขับแบบสลาลอมที่คุมรถให้เลาะใกล้กรวยได้ หรือ จังหวะการเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน หรือ เลนเชนจ์ โดยไม่ใช้เบรก กับความเร็วระดับ 70 กม./ชม. ยังคุมรถได้ แม้จะรู้สึกถึงอาการโยนตัวของตัวถังอยู่บ้าง
หรือโค้งธรรมชาติของสนามที่ยังเข้าออกได้เร็ว แม้ว่าบางจังหวะ บางโค้ง จะมีอาการท้ายออกบ้างเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ และยังสามารถเติมคันเร่ง โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ หน้ารถที่คม แม่น ทำให้ผู้ขับรู้สถานการณ์ของรถในเวลานั้นๆ ได้ดี
และเอาจริงๆ ก็แทบไม่ต้องแก้อาการอะไรกับการที่ท้ายออกเล็กน้อย เพราะรถจัดการได้ด้วยตัวเอง หรืออย่างมากก็แก้ด้วยพวงมาลัยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
แต่ว่านี่เป็นการขับที่ใช้ความเร็วมากกว่าปกติ เพราะอยู่ในแทรคที่มีความปลอดภัย ดังนั้นหากเป็นการขับทั่วไปบนท้องถนน ผมว่าไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าใครที่อยากได้อารมณ์สปอร์ต อาจอยากได้มากกว่านี้
แต่ถ้าเราดูแนวทางการออกแบบของรถ รูปทรงเรโทร การออกแบบภายใน เน้นพรีเมียม ก็เชื่อว่ารถออกแบบมาให้รองรับท้้งผู้ขับที่สนุกได้ และผู้นั่งที่นั่งได้สบาย ตัวอย่างเช่นการขับผ่านทางขรุขระจำลอง การเก็บแรงสั่นสะเทือนต่างๆ ทำได้ดี
เป็นอีวี ที่ใช้ได้ทั้งครอบครัว