ส.อ.ท.เผยผลิตรถยนต์ 11 เดือน ลดลง 0.98% ชี้ส่งออกโตดี แต่ยอดขายในประเทศวูบ
ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์ 11 เดือน ลดลง 0.98% เหตุยอดขายในประเทศหดตัว 7.71% คาดทั้งปียังได้ตามเป้า 1.85 ล้านคัน ลุ้มมอเตอร์เอ็กซ์โปดันยอดขายถึง 8 แสนคัน ส่วนส่งออกคาดเกินเป้าแตะ 1.1 ล้านคัน ประเมินปีหน้าอุตฯ ยานยนต์โตได้ตามการขยายตัวเศรษฐกิจที่ 3-3.5%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพ.ย. 2566 มีทั้งสิ้น 163,337 คัน ลดลงจากปีก่อน 14.10% เพราะฐานการผลิตสูงในปีที่แล้วจากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น รวมจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.2566) อยู่ที่ 1,708,042 คัน ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันปีก่อน 0.98% โดยสาเหตุหลักจากการผลิตรถกระบะเพื่อขายในประเทศที่ลดลงกว่า 1 แสนคัน หลังจากที่ในปีนี้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อนสินเชื่อ
"ทั้งนี้ ยังคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในปี 2566 จะยังเป็นไปตามเป้าที่ 1,850,000 คัน จากการส่งออกรถยนต์ที่มีแนวโน้มเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,050,00 คัน เป็น 1,100,000 คัน"
โดยการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนพ.ย. 2566 อยู่ที่ 99,609 คัน เเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.22% จากการส่งออกรถกระบะ รถยนต์นั่ง รวมทั้งรถ PPV ที่ยังขยายตัวได้ดีตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ทั้งในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 11 เดือน (ม.ค.–พ.ย. 2566) อยู่ที่ 1,027,234 คัน เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันปีก่อน 15.59% โดยมีมูลค่าการส่งออก 888,455.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.25%
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ย. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 61,621 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.51% แต่ลดลงจากปีที่แล้ว 9.76% เพราะยอดขายรถกระบะลดลง 38.8% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเนื่อจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง รวม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.2566) มียอดขายอยู่ที่ 707,454 คัน ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันปีก่อน 7.71%
"ทั้งนี้ คงต้องติดตามยอดขายรถยนต์ในเดือนธ.ค.ซึ่งมีการจัดมอเตอร์เอ็กซ์โปจะช่วยดันยอดขายและยอดจดทะเบียนทั้งปี 2566 ให้ถึงเป้า 800,000 คัน"
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2567 ส.อ.ท.ยังต้องรอสรุปตัวเลขในเดือนธ.ค. โดยเบื้องต้นประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีหน้าจะเติบโตได้ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ 3.0-3.5%
ด้วยปัจจัยหนุนหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะมาช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้เกษตรกร รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายภาครัฐที่จะเริ่มใช้เดือนเม.ย.67 นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าภายหลังจากที่นายกฯ ได้ออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศ
"ขณะที่การส่งออกรถยนต์ในปีหน้า มองว่ายังพอๆ กับในปีนี้ที่ 1.1 ล้านคัน อย่างไรก็ดี สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังต้องจับตาความเสี่ยงทั้งความตึงเครียดในทะเลแดง สงคราม และความขัดแย้งในหลายภูมิภาคที่อาจบานปลาย"