รัฐบาลยัน ‘อีซูซุ’ ยึดไทยฐานผลิตอีวี ผลิต ‘Isuzu D-Max EV’ ส่งออกปีหน้า
โฆษกรัฐบาลเผยความเชื่อมั่นบริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประกาศผลิตต้นแบบรถปิกอัพไฟฟ้า ผลิต ‘Isuzu D-Max EV’ ในไทย ส่งออกไปต่างประเทศในปีหน้า
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภาคเอกชนผู้ผลิตยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ของประเทศไทย เดินหน้าสนับสนุนนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการมุ่งมั่นสู่สังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608
ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน ด้วยแผนการผลิตรถปิกอัพไฟฟ้าในไทยเพื่อส่งออก รวมถึงสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (Isuzu Motors) และบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ วางแผนที่จะผลิตรถปิกอัพไฟฟ้าต้นแบบ อีซูซุ ดีแมคซ์ หรือ Isuzu D-Max EV Concept จากฐานการผลิตในประเทศไทย เพื่อส่งออกในปี 2568 โดยเปิดตัวในประเทศภาคพื้นยุโรปบางประเทศ เช่น นอร์เวย์
จากนั้นมีกำหนดการจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไทย ตลอดจนประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป และอีซูซุจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท ในด้านการวิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2573 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นกลางทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ และการสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า
โดยในปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก มีการผลิตรถยนต์ต่อปีมากถึง 1.8 - 1.9 ล้านคัน สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งรถปิกอัพเป็นรถที่ส่งออกมากที่สุดคิดเป็น 70% จากรถทุกประเภท
"นายกรัฐมนตรีขอบคุณภาคเอกชนที่เชื่อมั่นในรัฐบาลและ นโยบายของไทยให้เป็นฐานการผลิต ความเชื่อมั่นนี้เป็นกำลังสำคัญสะท้อนถึงนโยบายของรัฐบาลที่มาถูกทาง สอดคล้องกับความท้าทายในยุคปัจจุบัน และความต้องการของภาคเอกชน รวมถึงแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งตามนโยบายของรัฐบาล"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ในการเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในโอกาสนี้ ขอให้เอกชนมั่นใจว่าไทยพร้อมจะเป็นฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตแบบครบวงจรอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความยั่งยืนในการผลิต