วินฟาสต์ เผยผลสำรวจลูกค้า VF 3 ว่าที่น้องใหม่ EV ไทย
วินฟาสต์ (Vinfast) เตรียมเปิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และมีแผนที่จะทำตลาดน้องเล็กล่าสุดอย่าง VF3 ที่เพิ่งเปิดตัวในเวียดนามไปเมื่อไม่นานมานี้ และดูเหมือนจะร้อนแรงไม่น้อยทีเดียว
สำหรับการทำตลาดในไทย วินฟาสต์ (Vinfast) จะเริ่มต้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รุ่น VF 5 ในเดือนนี้ ก่อนที่จะเสริมตลาดตามมาอีกหลายรุ่นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น VF 6 VF 7 รวมถึงน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้ ก็คือ VF 3 รถมินิ เอสยูวี
วินฟาสต์ ระบุว่า VF 3 ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวียดนาม คาดว่าจะทำยอดขายได้ดีไม่แพ้กันหากได้มาเปิดตัวในตลาดศักยภาพอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ด้วยจุดเด่นคือ ดีไซน์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเมือง ถูกใจคนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าผู้หญิง
นอกจากนี้การที่กำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มลดลง อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะชะลอตัว บริษัทรถยนต์ต่างๆ ต้องแก้เกมโดยนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายรุ่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาเข้าถึงได้ง่าย
วินฟาสต์ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้กลยุทธ์ดังกล่าว และประสบความสำเร็จอย่างมากกับมินิเอสยูวีไฟฟ้ารุ่น VF 3 ใหม่
โดยในตลาดเวียดนาม ยอดสั่งซื้อล่วงหน้าแบบไม่คืนเงิน 27,649 คันภายในเวลา 66 ชั่วโมง
นอกจากนี้ VF 3 ยังกลายเป็นปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดียในเวียดนาม โดยเป็นรถยนต์รุ่นที่ติดอันดับเทรนด์ และเป็นที่กล่าวถึงบนสื่อออนไลน์มากที่สุดนับตั้งแต่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า
วินฟาสต์รบุว่าผลสำรวจที่จัดทำโดยนิตยสารออนไลน์ของเวียดนามเผยให้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับฐานลูกค้าจำนวนมาเลือก VF 3 มากกว่าอีวี จากจีน
ส่วนกลุ่มลูกค้า กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด 25.5% เป็นผู้หญิงวัยทำงานซึ่งให้ความสำคัญกับราคาที่เข้าถึงได้ และความคล่องตัวในการใช้งานประจำวัน และรับส่งลูก ความกะทัดรัด และความสะดวกในการขับขี่ในพื้นที่คับแคบในเมือง
กลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก ที่มีลูก 1 - 2 คน) สัดส่วน 22.2% กลุ่มนี้ให้ความสะดวกในการใช้งาน และขนาดที่หมาะสมอสำหรับการใช้งานในเมือง รองรับความต้องการของกลุ่มคนที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว
ขณะที่ 16% เป็นกลุ่มผู้ที่กำลังมองหารถคันที่สอง คนวัยเริ่มต้นทำงาน และพนักงานออฟฟิศ ซึ่งความเป็นรถอเนกประสงค์และราคาที่จับต้องได้ ทำให้รถรุ่นนี้โดนใจกลุ่มคนหลากหลายไลฟ์สไตล์
ขณะที่รายงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency - IEA) ระบุว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ภายใต้ภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ราคาที่จับต้องได้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการใช้ EV
IEA คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แตะ 17 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% จากปี 2566