เอ็มจี เสริมตลาด เอสยูวี HS ราคาน่าลุ้น 1.000 คันแรก เริ่ม 8.85 แสนบาท

       บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว MG HS เสริมตลาด เอสยูวี หลังจากเริ่มทำตลาดรถยนต์ในกลุ่มนี้ครั้งแรกกับรุ่น GS เมื่อ 3 ปีก่อน ต่อเนื่องด้วย ZS ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

       HS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่นสูงสุด คือ รุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง Scarlet Red สีขาว Arctic White สีดำ Black Knight และ สีเงิน Silver Metallic โดยลูกค้าสามารถชมและทดลองขับได้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป และจะเริ่มต้นส่งมอบรถได้ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.

         HS ออกแบบเน้นความโค้งมนของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะด้วยแนวคิด ‘Stella Magnetic Field ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่เวลากลางวัน ไฟท้ายแบบ Space Light Field ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังที่แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential เพิ่มความหรูหรา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น D และ X ส่วนรุ่น C ขนาด 17 นิ้ว

        ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ทั้งบริเวณคอนโซลหน้า แผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า เป็นเบาะแบบบักเก็ตซีท สีดำสลับแดง โดยรุ่น X มี                ส่วนหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara เบาะหลังนั่งสบายปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่

       ไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light สามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 1.1 ตารางเมตร

       หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function  Display ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว พวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมกุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า

       เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงถึง E85 เกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ต่ำกว่า 10 วินาที

       รุ่น X มีโหมดการขับขี่  4 โหมด คือ Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โหมด Sport  และโหมด Custom ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ แบะมีปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัยที่ช่วยเร่งกำลังให้มากขึ้น

       ติดตั้ง i-SMART มาพร้อมระบบสั่งการที่ด้วยเสียงภาษาไทย ที่มีฟังก์ชั่นการสั่งการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การโทรออก สั่งการควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ รวมถึงค้นหาจุดที่น่าสนใจเพื่อวางแผนการเดินทาง

     และสามารถสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ทโฟน Smart Connect ได้ด้วย

       ระบบความปลอดภัย เช่น ระบบ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ เช่น ระบบควบคุม             การเบรกขณะเข้าโค้ง CBC ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA ถุงลม 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ 

       ส่วนราคาจำหน่าย เริ่่มต้นรุ่น C 919,000 บาท รุ่น D 1,019.000 บาท รุ่น X 1,119.000 บาท แต่ในช่วงแนะนำมีราคาพิเศษ 1,000 คันแรก รุ่น C 855.000 บาท รุ่น D 985,000 บาท และรุ่น X 1,085.000 บาท