เอ็มจี เคาะราคา 'HS PHEV' 1.359 ล้าน
ลุยตลาด แมส ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ขุมพลัง 284 แรงม้า อัดออปชั่นความปลอดภัย 25 ระบบ เคลมประหยัดสูงสุด 65 กม./ลิตร
เอ็มจี เปิดตัว HS PHEV รถเอสยูวี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และถือเป็น รถปลั๊ก-อิน ในตลาดแมส ครั้งแรกในไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดนี้อยู่ในกลุ่มของรถจากยุโรปเป็นหลัก
HS PHEV ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังร่วมกันสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 7.5 วินาที
มีโหมดขับขี่ให้เลือก 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ติดตั้งบนพวงมาลัย
ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูล รวม 6 โมดูล ขนาด 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้สูงสุด 67 กิโลเมตร
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย เอ็มจี ระบุว่า ทำได้สูงสุด 65 กิโลเมตร/ลิตร
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า HS PHEV ยังนำเสนอระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ มาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System 25 ระบบ ประกอบด้วย
สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
และเพิ่มความหรูหราของการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี 2-Tone Monaco Blue พร้อมวัสดุผิวสัมผัสนุ่มแบบ Soft Touch เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat เพิ่มความเงียบห้องโดยสารด้วยการเพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System ระบบปฏิบัติการ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย
เอ็มจี HS PHEV ตั้งราคาจำหน่าย 1,359,000 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม เป็นต้นไป