สีใหม่ 'ฟอร์ด มัสแตง' เพิ่มความดุดัน-สปอร์ต
ฟอร์ด เพิ่มทางเลือก ฟอร์ด มัสแตง ด้วยสีใหม่ เทา ‘คาร์บอนไนซ์ เกรย์’ เสริมบุคลิกให้ดูสปอร์ต ดุดัน ทั้งรุ่นเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5 ลิตร และอีโคบู๊สต์ 2.3 ลิตร
ถือเป็นรถที่ได้รับการตอบรับเหนือความคาดหมาย ที่ฟอร์ดเองก็ไม่ได้ตั้งเป้ามากนัก สำหรับรถสปอร์ต ”ฟอร์ด มัสแตง” “นับตั้งแต่เปิดตัวเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2561 จากการเป็นรถที่มีบุคลิก เอกลักษณ์เฉพาะตัว และระดับราคาที่ไม่แรงเกินไป
และเพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับตลาด และเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า ฟอร์ด เพิ่มสีใหม่เข้ามาคือ สีเทา “คาร์บอนไนซ์ เกรย์” เพื่อเน้นให้มีบุคลิกที่ดุดัน และสปอร์ตมากขึ้น
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งการแตกแต่งหรือออปชั่นต่างๆ ยังเหมือนเดิม
โดยมัสแตงทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ช่วยเติมความสนุกในการขับขี่บนเส้นทางคดเคี้ยว กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์ช่วยให้รถยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น และในรุ่น จีที ดุดันด้วย ท่อไอเสีย 4 ท่อ
โดยเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) เป็นการทำงานร่วมกัคนของระบบไดเร็คอินเจคชั่นแรงดันสูง (High-Pressure Direct Injection) และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection)
- กำลังสูงสุด 449 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที
ส่วนเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 2.3 ลิตร ก็จะเน้นในเรื่องของการประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดีกว่า แต่ก็สามารถตอบสนองการขับขี่ในรูปแบบสปอร์ตได้เช่นกัน
- กำลังสูงสุด 290 แรงม้าที่ 5,400 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที
ทั้ง 2 รุ่นใช้ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมแพดเดิลชิฟท์ ห้องโดยสารภายในหรูหรา สะดวกสบาย
ส่วนผู้ที่ต้องการเบิร์นยางหลัง (เหมาะกับเอาไปแข่งขันทางตรง หรือ แดร็ก สตริป ไม่ควรใช้บนท้องถนน) ฟอร์ด มัสแตง มีระบบ Electronic Line Lock มาให้ทั้ง 2 รุ่น เครื่องยนต์
ด้านระบบการขับขี่ มี 6 โหมดให้เลือกใช้งานเพื่อควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่ง รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัย รวมถึงโหมดปรับระดับความดังของท่อไอเสีย
แต่ว่า ฟอร์ดก็ยังมี ยังมี Quiet Mode ตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบได้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อลดการรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชน โดยเฉพาะเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์วี 8
สำหรับ 6 โหมด การขับขี่ที่สามารถเลือกปรับได้ประกอบด้วย
- โหมดปกติ (Normal)
- โหมดสปอร์ต (Sport) การตอบสนองของคันเร่งและระบบบังคับเลี้ยวเร็วขึ้น ปรับการเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สัมผัสสมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางที่คดเคี้ยวได้อย่างเต็มพลัง
- โหมดแทร็ค (Track) สำหรับผู้ที่ต้องการนำม้าป่าเข้าไปโลดแล่นในสนามแข่ง โดยโหมดนี้ระบบเสถียรภาพการทรงตัวจะถูกปิด ปรับคันเร่งให้ไวยิ่งขึ้น
- โหมดหิมะ- พื้นเปียก (Snow/Wet) ช่วยให้ขับขี่บนพื้นถนนที่ลื่นควบคุมได้ง่ายขึ้น ระบบจะควบคุมให้การตอบสนองของคันเร่งช้าลงเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีหรือลื่นไถล
- โหมดแข่งทางตรง (Drag Strip) ช่วยให้รถออกตัวได้เร็วกว่าปกติ ด้วยการลดช่วงเวลาการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้แรงบิดถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการยึดเกาะถนนขณะออกตัว
- โหมด My Mode เป็นโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง
ขณะที่พวงมาลัย ฟอร์ด มัสแตง สามารถเลือกได้ตามความต้องการ ความชอบของผู้ขับขี่ แต่แต่ละคนอาจชอบไม่เหมือนกัน หนัก-เบา แตกต่างกันไป โดยปรับแต่งได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
- คอมฟอร์ท (Comfort) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา
- แบบปกติ (Normal)
- แบบสปอร์ต (Sport) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักมากขึ้น
สำหรับราคา ฟอร์ด มัสแตง ประกอบด้วย
- 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,799,000 บาท
- 3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,599,000 บาท