มิลเลนเนียม ออโต้ พร้อมลุย “อีวี” ดันตลาด iX - iX3
มิลเลนเนียม ออโต้ ตัวแทนจำหน่าย บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประกาศความพร้อม ในการบุกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) หลังจากบริษัทแม่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัว 2 รุ่น ใหม่อย่างเป็นทางการ ทั้ง ไอเอ็กซ์ (iX) และ ไอเอ็กซ์ 3 (iX3)
ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี มีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นทุกขณะ แม้ว่าจะมีขนาดตลาดที่เล็ก แต่ปัจจุบันมีรถยนต์ทำตลาดแล้วมากกว่า 10 รุ่น ล่าสุดคือ การเปิดตัว เอสยูวี อีวี 2 รุ่นของ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย คือ ไอเอ็กซ์ (iX) และ ไอเอ็กซ์3 (iX3)
แนวทางการทำตลาดของ บีเอ็มดับเบิลยู จะเปิดโอกาสให้ทุกดีลเลอร์ ได้สิทธิ์จำหน่าย แต่การบริการหลังการขายมีเฉพาะบางดีลเลอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น เพราะต้องมีการลงทุน และเตรียมการเพิ่มเติมหลายอย่างทั้งการลงทุนด้านต่างๆ รวมถึงบุคลากร
หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายที่ได้สิทธิ์ดูแลการบริการหลังการขาย คือ บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ในเครือบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย
สมปราชญ์ โบสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่าบริษัทให้ความสนใจกับพลังงานไฟฟ้า และมีประสบการณ์มายาวนาน ดังนั้นจึงมั่นใจว่า จะสามารถก้าวสู่ธุรกิจใหม่นี้ได้ดี
“ตั้งแต่ปี 2557 ที่บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตลาด บีเอ็มดับเบิลยูไอ ซึ่งมีทั้งไฟฟ้าและปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทั้งไอ 3 ไอ 8 เราเห็นว่าอนาคตไฟฟ้าต้องมา จึงตัดสินใจที่เป็นผู้ทำตลาดไอ ทำให้มีประสบการณ์ในด้านนี้เพียงพอ”
ซึ่งประสบการณ์ที่ได้ ยังรวมถึงการรับรู้ความคิดเห็น ความต้องการ หรือที่สิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า ทำให้สามารถนำมาใช้ในการวางแผนได้ดี
และหลังจากบริษัทแม่เปิดตลาดอย่างเป็นทางการ บริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจทั้งด้านการตลาด และบริการหลังการขาย โดยได้เตรียมความพร้อมหลายอย่าง
ประสงค์ ประเสริฐพร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการหลังการขย กล่าวว่า สิ่งที่บริษัทดำเนินการ คือการติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้า โดยมีตู้ชาร์จกระแสสลับ (AC) 1 หัวจ่าย และตู้ชาร์จเร็ว (DC) 2 หัว ซึ่งหัวชาร์จดีซี มีทั้งแบบ 60 กิโลวัตต์ และ 160 กิโลวัตต์ในบางสาขา เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการในอนาคต
ด้านบุคลากร โดยเฉพาะบุคลากรด้านบริการหลังการขาย ได้จัดอบรมเป็นพิเศษ ตามข้อกำหนดของบริษัทแม่ ซึ่งมีความเข้มข้นมาก และจะต้องได้รับใบรับรองก่อนจึงจะสามารถปฏิบ้ติการได้ โดยขณะนี้มีผู้ผ่านการฝึกอบรมแล้วประมาณ 20 คน และปีหน้าจะเพิ่มให้ได้ 30 คน
นอกจากนี้ก็เตรียความพร้อมด้านเครื่องมือ ซึ่งบางอย่างต้องเป็นเครื่องมือเฉพาะ เช่น เครื่องมือตรวจสภาพแบตเตอรี เครื่องมือถอดแบตเตอรี และการสต็อกอะไหล่ให้เพียงพอ
ทั้งนี้การลงทุนในด้านต่างๆ ใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท
สมปราชญ์กล่าวว่า นอกจากการลงทุน การเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ แล้ว สิ่งที่บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำตลาด อีวี ได้ดี เพราะมีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง โดยเฉพาะเครือข่ายของเอ็มจีซี-เอเชีย มีธุรกิจที่หลากหลาย เรียกว่าเป็นอีโค ซิสเทมส์ ของธุรกิจได้
สิ่งที่จะมาส่งเสริม เช่น ธุรกิจรถเช่า ซิกท์ เพราะสามารถนำธุรกิจเข้ามาให้บริการลูกค้าได้ในนอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือกรณีรถมีปัญหา
ด้านการประกันภัย เอ็มจีซี มี แม็กซี่ ประกันภัย ที่เข้ามาให้การสนับสนุน รวมถึงยังเตรียมความพร้อมรับ นโยบาย บายแบ็ค ของบริษัทอีกด้วย
นอกจากนี้ การที่บริษัทมีเครือข่ายทีี่ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ ที่มี 5 แห่ง คือ พระราม 4 พระราม 3 ลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม กับต่างจังหวัดอีก 4 แห่ง คือ อุบลราชธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ และสุราษฎร์ธานี ดังนั้นจึงจะเป็นการช่วยในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
และสำหรับ 2 รุ่นแรกที่บริษัทแม่ทำตลาด คือ ไอเอ็กซ์3 ที่ได้โควต้า ประมาณ 100 คัน บริษัทได้โควต้า 30% ส่วนไอเอ็กซ์ โด้ 10 คัน ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าจองหมดแล้ว และคาดว่จะส่งมอบได้ภายในช่วงไตรมาสแรก ปี 2565