เอ็มจี "แซดเอส อีวี" เพิ่มขนาดแบตฯ เพิ่มแรงม้า ลดแรงบิด ระยะทางใช้งานเพิ่ม
เอ็มจี (MG) ส่งแซดเอส อีวี (ZS EV) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ลงลยตลาด อีวี โดยปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ ทั้งภายนอก ภายใน เพิ่มความจุแบเตเตอรี แต่ปรับสเปคมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ แรงม้า เพิ่มขึ้น แต่ลดแรงบิดลง และมาพร้อม อุปกรณ์ต่อเชื่อมกระแสไฟจากรถ V2L
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี เปิดตัว เอ็มจี แซดเอส อีวี (MG ZS EV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรืออีวี รุ่นปรับโฉม
โดยปรับเปลี่ยนรายละเอียดในบางส่วน โดยเฉพาะกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ให้มุมมองความเป็น อีวี มากขึ้น ดูมีความพรีเมียมมากขึ้น
โดยรายละเอียดของตัวถัง มีความยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,649 มม. ฐานล้อ 2,585 มม. ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN
เอ็มจี แซดเอส อีวี เพิ่มความจุแบตเตอรีจาก 44.5 37 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็น 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้มีระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งเพิ่มขึ้นเป็น 403 กม. จากเดิม 377 กม.
นอกจากนี้เอ็มจียังปรับเรื่องของสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยการเพิ่มแรงม้า จากเดิม 150 แรงม้า เป็น 177 แรงม้า
แต่ขณะเดียวกันปรับลดแรงบิดจาก 350 นิวตันเมตร เหลือ 280 นิวตันเมตร ซึ่งจะมีผลทำให้มีระยะทางการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น และความเร็วสูงสุดก็เพิ่มจาก 150 กม./ชม. เป็น 175 กม./ชม.
ทั้งนี้การลดแรงบิด มีส่วนช่วยให้รถสามารถขับขี่ได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
แต่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพิ่มจากเดิม 8.2 วินาที เป็น 8.6 วินาที
โหมดการขับขี่มี 3 รูปแบบ ให้เลือกใช้ คือ Eco Normal และ Sport
ส่วนออปชั่นหลักๆ เช่น
- ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟท้าย ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
- ล้ออัลลอย ใหม่ 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover
- ภายในยังเน้น ให้ใช้งานง่าย เติมมุมมองสปอร์ตด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะหนังดำเดินด้ายแดง และวัสดุบุนุ่ม (Soft Touch)ในหลายส่วน
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
- หน้าจอแสดงผล ดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว
- หน้าจอสีระบบสัมผัสใหม่ 10 นิ้ว
- หลังคาซันรูฟ พาโนรามา
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- กระจกมองหลังตัดแสง
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- ลำโพง 6 ดอก
- ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และ Android
- ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบ
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง
- ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน (ELK) ที่เพิ่มเข้ามาเป้นครั้งแรก ทำงานร่วมกับระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
นอกจากนี้ เอ็มจี แซดเอส อีวี ยังติดตั้ระบบระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) หรือการจ่ายพลังงานจากรถ ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นมาให้เป็นครั้งแรก ด้วยกำลังไฟ 2,000 วัตต์
ส่วนราคาจำหน่าย เอ็มจี จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์