มาร์สจัดโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” ลดขยะบรรจุภัณฑ์
มาร์สไทยแลนด์อิงค์ เปิดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงนำซองบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาหารสุนัขและแมวที่ใช้แล้วมาแลกเป็นส่วนลดซื้อสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของมาร์ส ผ่านโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” (SWAP Recycling) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
มาร์สไทยแลนด์อิงค์ เปิดโอกาสให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดขยะบรรจุภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน โดยนำซองบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาหารสุนัขและแมวที่ใช้แล้วมาแลกเป็นส่วนลดซื้อสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของมาร์ส กับโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” (SWAP Recycling) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากโครงการในปีแรกประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมาก ตอกย้ำพฤติกรรมเพื่อความยั่งยืนในกลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยง
มาร์ส เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน และอยากเห็นอนาคตที่พลาสติกจากบรรจุภัณฑ์จะไม่เป็นขยะอีกต่อไป จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” เมื่อปีที่ผ่านมา โดยมาร์สสามารถรวบรวมถุงบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ใช้แล้วจำนวนกว่า 35,000 ถุงจากโครงการ และส่งต่อไปยังโรงงานรีไซเคิลที่จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลขยะพลาสติก เพื่อแปรรูปบรรจุภัณฑ์ให้เป็นผลิตภัณฑ์บล็อกปูพื้นรูปแมว ใช้สำหรับตกแต่งลานภายนอกของโรงงานแห่งใหม่ของมาร์ส ที่จังหวัดชลบุรี
ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ของโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” มาร์สยังคงสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการลดขยะและรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติก เพียงเจ้าของสัตว์เลี้ยงนำถุงเปล่าอาหารสุนัขหรืออาหารแมวทั้งแบบอาหารเม็ดและอาหารเปียก (ล้างให้สะอาด) แบรนด์ใดก็ได้ มาแลกรับส่วนลดในการซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ PEDIGREE WHISKAS IAMS CESAR SHEBA สูงสุด 100 บาท เฉพาะร้านค้าทั่วประเทศที่ร่วมรายการ แคมเปญดังกล่าวเริ่มระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 ธันวาคม 2565 สามารถติดตามรายละเอียดรายการและรายชื่อร้านค้าที่ร่วมรายการได้ที่ FB: Pedigree Thailand และ FB: Whiskas Thailand
นายรัชกร เจนพัฒนพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและอินโดจีน มาร์สไทยแลนด์อิงค์ กล่าวว่า
“หลังจากเปิดตัวโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” ไปเมื่อปีที่ผ่านมา มีเจ้าของสัตว์เสี้ยงจำนวนมากนำถุงเปล่าอาหารสุนัขและอาหารแมวมาเข้าร่วมแคมเปญเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล สำหรับการรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ใหม่ นอกจากมีการดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรองรับแล้ว เราจะต้องมีการส่งเสริมด้านการจัดเก็บ การคัดแยก โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิล และพฤติกรรมด้านการรีไซเคิลของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เราขยายโครงการสู่ปีที่ 2”