Invitae กับภาระกิจตรวจพันธุกรรมให้มนุษย์พันล้านคนทั่วโลก
Heath Tech หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพกำลังเป็นอีก Mega Trend สำคัญที่เกิดขึ้นในโลกเวลานี้
สำคัญที่เกิดขึ้นในโลกเวลานี้ และวิกฤติโควิด-19 ก็เป็นอีก 1 ตัวเร่งให้เทรนด์นี้เกิดขึ้นเร็วมากขึ้น หนึ่งในแนวทางการรักษาโรคที่กำลังค่อย ๆ แพร่หลายในโลกเวลานี้คือคือการแพทย์แบบจีโนมิกส์ (Genomics) คือการตรวจสุขภาพในระดับยีน หรือโครงสร้างพันธุกรรมเพื่อให้การดูแลสุขภาพ และการรักษาโรคเป็นไปอย่างตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเหมาะกับยีนของคนแต่ละคน
การใช้ Genomics ในการรักษาโรคนั้นทำให้การรักษาเป็นแบบเฉพาะบุคคล โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการคาดการณ์และการวินิจฉัยโรค รวมไปถึงการออกแบบการรักษา และการเลือกให้ยากับคนไข้ได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ Invitae ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้าน Health Tech ที่วันนี้ยังเป็นบริษัทขนาดกลางแต่คิดการณ์ใหญ่คือตั้งเป้าหมายพัฒนาสุขภาพให้กับผู้คนด้วยการตรวจพันธุกรรมให้กับคนพันล้านคนทั่วโลก นั่นก็คือการทำให้ผู้คนเข้าถึงการแพทย์แบบจีโนมิกส์นั่นเอง
Invitae มีภารกิจในการนำการวิเคราะห์พันธุกรรมมาช่วยในการดูแลรักษา และพัฒนาสุขภาพให้กับคนทั้งโลก โดยทำให้การเข้าถึงข้อมูลพันธุกรรมสามารถทำได้สำหรับชาวโลกในวงกว้าง ซึ่งกุญแจสำคัญที่สุดสำหรับโมเดลธุรกิจของ Invitae คือการทำให้การตรวจสอบพันธุกรรมนั้นราคาถูกลง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
วิธีการให้บริการของ Invitae นั้นเริ่มจากที่หมอจะเป็นคนส่งขอตรวจพันธุกรรมผ่านทาง on line และคนไข้ทำการเก็บตัวอย่าง "น้ำลาย" จากที่บ้านซึ่งสามารถทำได้สะดวก และส่งกลับให้ Invitae ตรวจพันธุกรรม ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบการเป็นพาหะของโรคทางพันธุกรรมของยีน 288 ตัวที่อาจส่งต่อไปให้ลูกซึ่งมักตรวจกันเวลาตั้งครรภ์มีค่าใช้จ่าย 250 ดอลลาร์หรือ 7,500 บาทเท่านั้น หรือการตรวจสอบยีน 147 ตัวเพื่อประเมินความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง และโรคหัวใจมีค่าใช้จ่าย 350 ดอลลาร์หรือประมาณ 1 หมื่นบาท
โดย Invitae นั้นมีแพลตฟอร์มที่ชื่อ diploid ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยแปรข้อมูลทางพันธุกรรมให้การเป็นผลการวินิจฉัยเพื่อประกอบข้อมูลสำหรับแพทย์ และเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลพันธุกรรมของคนไข้แต่ละคนตลอดชีวิต
ปัจจุบันในแต่ละไตรมาส Invitae ได้มีการตรวจพันธุกรรมถึงเกือบ 200,000 คนซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ซต่อเนื่องในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และนับแต่จัดตั้งบริษัทมีจำนวนผู้ตรวจรวมกว่า 1 ล้านคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประโยชน์ที่สำคัญของการตรวจพันธุกรรมนั้นคือการทำให้คุณภาพของการรักษาดีขึ้น และ 1 ใน 3 ของผู้ที่ตรวจพันธุกรรม จะได้รับแนวทางที่เปลี่ยนแปลงไปจากแพทย์ เนื่องจากแพทย์มีข้อมูลประกอบการรักษาที่มากขึ้น
ตัวอย่างเช่นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่เป็นโรคที่เป็นกันมากในกลุ่มผู้ชาย และเป็นโรคที่ีติดต่อทางพันธุกรรม โดยผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้จะมีโอกาสเป็นสูงกว่าคนอื่นถึง 10-20 เท่า ซึ่ง 3 ใน 4 ของคนที่ผ่านการตรวจพันธุกรรมจะได้รับแนวทางการรักษาที่ดีขึ้นกว่าการตรวจเลือดทั่ว ๆ ไป
ดังนั้นเมื่อการตรวจสอบพันธุกรรมสามารถทำได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง จึงน่าจะทำให้เกิดการ adoption มาใช้บริการในลักษณะเดียวกับ Invitae ในวงกว้างทั่วโลก และในอนาคตน่าจะทำให้การตรวจพันธุกรรมกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโลกในการตรวจวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธภาพในการรักษาของแพทย์ในอนาคต
บริษัท Invitae ปัจจุบันมีมูลค่ากิจการ 9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.7 แสนล้านบาทจดทะเบียนอยู่ในนิวยอร์ค (NYSE: NVTA) และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือครองหลักโดยกองทุนอย่าง Nikko AM ARK Disruptive Innovation Fund ซึ่งนักลงทุนไทยที่สนใจสามารถลงทุนได้ผ่านกองทุน
TMB-ES-GINNO ของบลจ.ทหารไทย อีสต์สปริงและอีกหนึ่งกองทุนที่ถือครองหุ้น INVITAE ในสัดส่วนที่สูงอย่างกองทุน ARK Genomic Revolution ETF ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนได้ผ่านกองทุน TGENOME ของค่ายบลจ.ทิสโก้
ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือ disruption และนักลงทุนที่ศึกษาหาความรู้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าคนอื่นได้อย่างแน่นอน โดยนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนที่ถือครองหุ้น INVITAE ทั้งสองกองได้ฟรีจากเวบไซต์หรือแอพพลิเคชั่น FINNOMENA ได้เลยครับ
FundTalk รายงาน
เจษฎา สุขทิศ "ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FINNOMENA และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์" finnomena.com