แผนรับมือลดโลกร้อนไทยเริ่มแล้วต้องไปให้สุด

แผนรับมือลดโลกร้อนไทยเริ่มแล้วต้องไปให้สุด

การประชุมการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติปี 2024 หรือ COP29 กำลังจัดขึ้นที่กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย.2567

โดยการประชุมครั้งนี้กำหนดหัวข้อ “In Solidarity for a Green World” โดยจะขับเคลื่อน 3 ประเด็นสำคัญ คือ การจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส รวมถึงการเสริมสร้างความทะเยอทะยาน และการสนับสนุนการดำเนินการ โดยจะเร่งหาข้อสรุปการจัดหาเงินทุนสีเขียว 

สำหรับประเทศกำลังพัฒนามีความจำเป็นที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากประเทศพัฒนาแล้ว เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งในบางกรณีอาจจะสูงเกินศักยภาพของประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งทำให้ในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือทางการเงินจากประเทศพัฒนาแล้ว จนเรียกได้ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่ให้ความสำคัญกับวาระที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือทางการเงินเป็นพิเศษ

จึงไม่แปลกที่จะเห็นท่าทีของประเทศกำลังพัฒนาต่อการประชุมครั้งนี้ต้องการให้ประเทศพัฒนาแล้วดำเนินการตามข้อตกลง โดยจีนจะเจรจากำหนดเป้าหมายการเงินใหม่เพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทดแทนเป้าหมายการระดมเงินเดิม 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่อินเดียกำลังผลักดันกลไกการให้ทุนแบบให้เปล่าและเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วปฏิบัติตามพันธกรณีด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ

ขณะที่ไทยมีท่าทีที่สอดคล้องกับหลายประเทศที่ต้องการให้ประเทศพัฒนาแล้วสนับสนุนด้านการเงิน โดยไทยต้องการให้มีการเจรจาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การเข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินอยู่ในรูปแบบที่ไทยรวมถึงประเทศอื่นเข้าถึงได้ เพราะถ้ากำหนดเงื่อนไขที่เข้าถึงได้ยากจะทำให้ความช่วยเหลือทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้วไม่มีประโยชน์ ซึ่งในอดีตประเทศพัฒนาแล้วล้วนมีส่วนในการทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ความตื่นตัวของการพัฒนาที่ยั่งยืนและการรับมือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศในไทยมีสูงขึ้นมา โดยภาครัฐได้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลพร้อมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว แต่การทำงานดังกล่าวถือเป็นเรื่องยากเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้ของสังคมที่ต้องใช้ความอดทนสร้างความเข้าใจ และจำเป็นต้องมีกลไกสนับสนุนจากภาครัฐ ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องตั้งใจทำงานทุกภาคส่วนและทำต่อเนื่องแบบหยุดไม่ได้เลย