เหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย

เหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย

"โซเซียลมีเดีย" นับเป็นช่องทางการสื่อสาร ที่ชาวโลกนิยมเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน

โดยเฉพาะการสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่าน "เฟซบุ๊ค" ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้

+++ สำหรับ "สังคมไทย" ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ที่นิยมใช้ "เฟซบุ๊ค" เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ผลงาน และเรื่องราวต่าง ๆ

+++ แม้แต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็มีคนใกล้ชิดสร้างเพจ เรารัก "ป๋า" พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ผลงานและคติพจน์ต่าง ๆ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจคนไทยทั้งชาติ

+++ สำหรับเพจ เรารัก "ป๋า" พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ระบุวัตถุประสงค์ไว้ว่า จัดทำขึ้นเพื่อสืบสานปณิธาน "เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" ปัจจุบันมีคนที่ติดตามเพจนี้ 12,428 คน

+++ ไฮไลต์ล่าสุดที่มีการโพสต์ เป็นคำพูดของ พล.อ.เปรม เพื่อเตือนสติสังคมไทย ด้วยประโยคที่ว่า "บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะคนดีวางเฉย ต่อการกระทำของคนชั่ว" นับว่าเข้ากับยุคสมัยทีเดียว

+++ ไม่รู้เป็นการ"ตัดไฟแต่ต้นลม"หรือเปล่า กับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.สั่งการให้"แม่ทัพภาคที่ 3" ดำเนินคดีกับ "กลุ่มคนเสื้อแดง" ภาคเหนือ ด้วยข้อหาร้ายแรง"กบฏ" หลังแสดงเจตนาต้องการแบ่งแยกประเทศ ออกไปเป็น "สปป.ลานนา"

+++ เพราะหากขืนปล่อยไป โดยไม่ทำอะไรเลย เกิดบานปลายขึ้นมา อาจจะ"เอาไม่อยู่"ก็เป็นไปได้ ดังนั้นเลยต้องปราม ๆ ไว้ก่อนเป็นดี

+++ เล่นเอา"งง" ไปกันทั้งศาลอาญา กับเหตุคนร้ายปาระเบิดสังหารชนิด M 61 จำนวน 2 ลูกใส่บริเวณศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อวานนี้ โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน

+++ ธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา บอกว่า ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายแล้ว ก็ไม่น่าที่จะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น ซึ่งการกระทำน่าจะเกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดี และคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากการพิจารณาคดีของฝ่ายต่าง ๆ

+++ หากให้ "แหลมเชิงดอย"เดา ขอเดาว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ "ชิงพื้นที่ข่าว" เพื่อกลบเกลื่อนประเด็น "แบ่งแยกประเทศ" ที่กำลังฮิตฮอตอยู่ในขณะนี้

+++ "ปี่กลอง" เลือกตั้งส.ว.ทั่วประเทศ 77 จังหวัด ๆ ละ 1 ที่นั่ง เริ่มคึกคักตั้งแต่วันนี้ (4 มี.ค.) เพราะเป็นวันแรกที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดให้มีการรับสมัคร ไปจนถึงวันที่ 8 มีมี.ค.นี้ และหย่อนบัตรลงคะแนนพร้อมกันในวันที่ 30 มี.ค.

+++ สำหรับพื้นที่"กรุงเทพมหานคร" ซึ่งมีส.ว.ได้ 1 คน เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ในการเลือกตั้งเมื่อ 19 เม.ย.2549 รสนา โตสิตระกูล ซึ่งชนะการเลือกตั้งได้เป็นส.ว. ด้วยคะแนนเสียง 743,397คะแนน ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากใครอยาก "เข้าวิน" ต้องขยันหาเสียงหน่อย อย่างน้อยก็มีคะแนนให้เห็นพอเป็นตัวอย่างแล้วว่า ต้องได้เท่าไหร่ ถึงจะมีสิทธิเดินเข้า "สภาสูง"

+++ อ่อ...การหาเสียงก็หาได้เฉพาะในเรื่องที่เป็นของบทบาทหน้าที่ในการเป็น ส.ว.เท่านั้น อย่าเผลอไปหาเสียงในรูปแบบเดียวกับ ส.ส. เดี๋ยวหากชนะขึ้นมา แล้วถูก "สอย" ภายหลัง จะมาเสียดายเอา