Equity Risk Premium สะท้อนแนวโน้มกระแสเงินลงทุน
Equity Risk Premium สะท้อนแนวโน้มทิศทางการไหลของกระแสเงินลงทุน
Equity Risk Premium (ERP) คือ ผลตอบแทนจากการลงทุนที่นักลงทุนต้องการเพิ่มในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเมื่อลงทุนในตลาดหุ้น ความเสี่ยงในที่นี้หมายความรวมถึงความเสี่ยงที่มาจากพื้นฐานตัวสินทรัพย์ และความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาคที่เข้ามากระทบต่อภาวะการลงทุน เช่น อัตราเงินเฟ้อ, ประเด็นทางการเมือง เป็นต้น โดย ERP ที่สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนที่นักลงทุนสมควรจะคาดหวัง ยังเป็นตัวสะท้อนต้นทุนของเงินทุนกิจการในมุมของธุรกิจอีกด้วย
การคำนวณค่า ERP อย่างง่ายๆ อาจทำโดยเริ่มจากการนำผลตอบแทนจากหุ้นลบผลตอบแทนจากพันธบัตร หรือหากต้องการคาดการณ์ ERP ก็สามารถประยุกต์โดยการนำคาดการณ์การเติบโตของกำไรในระยะยาว (Long-term EPS Growth) + เงินปันผล (Dividend Yield) – ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (Long-term Government Bond Yield) เป็นต้น
ERP สามารถอธิบายวลีเด่นของการลงทุนที่ว่า “High Risk High Return” ได้เป็นอย่างดีโดยใช้รูปที่ 1 ประกอบคำอธิบาย เมื่อดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลง (ในจุด A และ C) พบว่า ERP มักมีการปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกัน (จุด B และ D) บอกถึงนักลงทุนมีความต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น เมื่อตลาดอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูง ในอีกแง่มุมหนึ่งยังสามารถอธิบายแนวโน้มการไหลของกระแสเงินลงทุนได้ด้วย โดยเมื่อการลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงต่ำลงเรื่อยๆ (ERP ลดต่ำลง) มักพบย้ายกระแสเงินจากตลาดพันธบัตรมายังตลาดหุ้นมากขึ้น (SET ปรับตัวขึ้น) และเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็จะมีการกลับทิศ ซึ่งจากข้อมูล 10 ปีย้อนหลังพบว่าเมื่อ ERP ลดต่ำลงมากกว่า 5% มักจะมีการกลับตัว และทำให้เงินลงทุนไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดพันธบัตรอีกครั้งหนึ่ง
นักลงทุนสามารถประยุกต์ใช้ ERP เพื่อวิเคราะห์ระดับความเสี่ยงของตลาดหุ้นในแต่ละช่วงได้ รวมถึงดูแนวโน้มการย้ายกระแสเงินลงทุน เมื่อ ERP สูงขึ้นสะท้อนภาพความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากการที่นักลงทุนต้องการผลตอบแทนจากตลาดหุ้นที่มากขึ้น เพื่อชดเชยความเสี่ยง และความไม่มั่นใจในการลงทุนจะนำไปสู่การไหลออกของกระแสเงินไปยังตลาดพันธบัตรมากขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อ ERP ต่ำลง สะท้อนภาพความเสี่ยงที่ลดลง และความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น จะนำไปสู่การไหลเข้าของกระแสเงินทุนมายังตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น