‘บาทแข็ง’ เอื้อเรียนต่อเมืองนอก
เงินบาทไทยที่แข่งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลลบต่อการส่งออกของไทย ในขณะเดียวกันก็ส่งผลบวกต่อการลงทุนในต่างประเทศและการเรียนต่อเมืองนอก
ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ปกครองที่กำลังส่งบุตรหลานเรียนต่อเมืองนอก จากค่าเงินบาทของเราที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเทอมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ เงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรนั้นมีมูลค่าราคาแข่งขึ้นกว่า 10%
นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่กำลังตัดสินใจว่าจะเรียนต่อเมืองนอกหรือเมืองไทยดี เงินบาทที่แข็งขึ้นนั้นนอกจากจะส่งผลกระทบให้ค่าเทอมที่สูงอยู่แต่เดิมได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังส่งผลให้ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำรงชีวิตระหว่างเรียนนั้นถูกลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน
พูดให้เห็นภาพ หากท่านอยากส่งลูกเรียน MBA หรือ Business school ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อของประเทศอังกฤษ ท่านจำเป็นจะต้องเตรียมเงินไว้เป็นค่าเทอมกว่า 25,000 ปอนด์ และค่ากินอยู่อีกกว่า 65,000 ปอนด์ รวมแล้วคิดเป็นเงินไทยเกือบ 3 ล้านกว่าบาท หรือหากจะเรียนสายสังคมศาสตร์ ค่าเทอมก็จะถูกลงมาหน่อยเกือบ 10,000 ปอนด์
หรือหากอยากจะเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง ออกซ์ฟอร์ด ก็ต้องเตรียมเงินไว้กว่า 50,000 ปอนด์เฉพาะค่าเทอมอย่างเดียว ซึ่งคิดเป็นเงินไทยกว่า 2 ล้านบาทไม่รวมค่ากินอยู่ และค่าสังคม
ค่าเทอมเรียนต่อต่างประเทศที่สูงลิ่วนี้ เพื่อแลกมากับคุณภาพการศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก พ่วงด้วยชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่จะติดตัวผู้จบการศึกษาไปตลอดชีวิต นอกจากนี้แล้วในบางมหาวิทยาลัยค่าเทอมนี้ยังรวมถึงการสนับสนุนการศึกษาและการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่คณะจัดให้ อาทิ ทัศนศึกษา การอบรมสัมมนานอกสถานที่ และรวมถึงกิจกรรมสร้าวความสัมพันธ์ อาทิ งานเลี้ยงฉลองเปิดและปิดเทอม เลี้ยงฉลองจบการศึกษา เป็นต้น
ค่าเทอมในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงนั้นจะมีการเพิ่มทุกปี และนักศึกษาชาวต่างชาติก็จะต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่านักศึกษาในประเทศหรือภูมิภาคนั้น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนนักศึกษาต่างชาติลดลงแต่อย่างใด ในทางกลับกัน จะพบว่าในปัจจุบันนักเรียนต่าวชาติชาวเอเชียที่ไปเรียนในยุโรปและสหรัฐนั้นกลับมีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษาจากประเทศจีน
ยกตัวอย่างกรณีของประเทศอังกฤษ ที่ขณะนี้วุ่นวายอยู่กับการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า Brexit นั้นทำให้เงินปอนด์ตกสุดในรอบ 30 เดือนหรือลดลงกว่า 10% มาอยู่ที่ปอนด์ละ 37 กว่า ๆ บาทแล้ว หมายความว่าอยู่ดี ๆ นักเรียนไทยก็ได้รับส่วนลดพิเศษจากความผันผวนของค่าเงิน ทำให้ค่าเทอม ค่ากินอยู่ในอังกฤษลดลง 10% โดยอัตโนมัติ
หากเปรียบเทียบกับอดีตแล้วนั้น พูดได้ว่าค่าเงินไทยที่เคยอ่อนสุดหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 นั้น พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากแต่จะพิเคราะห์ในด้านของการเรียนต่อ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเด็กไทย ทำให้จำนวนของนักเรียนไทยที่เดินทางไปเรียนต่างประเทศนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี
ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นนี้ ส่งผลดีโดยตรงแก่นักเรียนและผู้ปกครองที่กำลังเรียนต่ออยู่ในต่างประเทศ ณ ขณะนี้ และก็ยังดึงดูดผู้ที่มีความสนใจจะเรียนต่อทั้งในคอร์สระยะสั้นและระยะยาวในต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย