อยู่ให้เป็น

อยู่ให้เป็น

พรรคอนาคตใหม่คือเจ้าตำรับของการแบ่งแยก

ประกาศตัว “อยู่ไม่เป็น” (ซึ่งก็เป็นเรื่องของพวกคุณ) แต่ก็ยังมีการแว้งกัดคนที่ “อยู่เป็น” ทำนองว่าเป็นพวกห่วย ไหลตามกระแส ยอมรับความอยุติธรรมเพื่อความอยู่รอด

คำถามคือมันใช่หรือ? และถ้าใช่...คน“อยู่เป็น”ผิดอะไร?

การ “อยู่เป็น” คือการเข้าใจปัญหา สามารถรับมือและมีวิธีอยู่ร่วมกับปัญหาได้ เพราะทุกคนแตกต่าง ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ถ้าคาบช้อนเงินช้อนทองออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ ก็ประกาศได้ว่า “กูอยู่ไม่เป็น” เพราะไม่ต้องแคร์ใคร ถึงอยู่ไม่เป็นก็ยังอยู่ได้ แต่คนส่วนใหญ่ทำอย่างนั้นได้หรือไม่

ฉะนั้นถ้าจะประกาศเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสังคม คุณต้องเริ่มจากการ “อยู่ให้เป็น” เสียก่อน หรืออย่างน้อยก็เข้าใจคนที่ “อยู่เป็น”

เพราะการเอาชนะทางการเมืองนั้นไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากคือการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง แล้วทำให้มันยั่งยืน

เหมือนในชั้นเรียนมีนักเรียน 30 คน การหา 16 เสียงเพื่อชนะโหวตเลือกหัวหน้าชั้นนั้นง่าย แต่ห้องเรียนจะอยู่ไม่ได้เลยถ้าอีก 14 คนที่เหลือพากันเกลียดหัวหน้าชั้น เพราะสุดท้ายจะลุกลามเป็นการแบ่งฝ่ายและทะเลาะกัน ไม่เป็นอันได้ร่ำเรียน

ชั้นเรียนที่ว่านี้ไม่ต่างจากสังคมไทยในห้วงที่ผ่านมา จริงอยู่ที่ระบบการเมืองของเรายังไม่ดีพอ บ้านเมืองเรามีปัญหา จึงไม่แปลกที่คนไทยจะหวังให้มีผู้นำการเปลี่ยนแปลง บางครั้งก็หวังทหาร บางเวลาก็หวังคนรวยแล้วจะไม่โกง หวังคนดี หวังเตมีย์ใบ้ แต่มันยังสร้างระบบที่ยั่งยืนไม่ได้ ก็ต้องหวังกันต่อไป

ฉะนั้นคนชอบทหาร ชอบคนไม่โกง ชอบคนดี หรือชอบทางลัด จึงไม่ใช่พวกโง่ ล้าหลัง ไม่ประชาธิปไตย เพราะไม่ผิดอะไรที่คนจะหวังผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่สร้างบ้านเมืองให้ “อยู่เย็นเป็นสุข”

คำถามที่พรรคอนาคตใหม่ควรหาคำตอบก็คือ คุณจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้อย่างไร หากคุณยังถูกตีตราว่าชังชาติ เป็นปฏิปักษ์กับสถาบันหลักของชาติ มองคนที่คิดต่างอย่างแบ่งแยก ไม่เท่าเทียม และที่สำคัญ...“อยู่ไม่เป็น”