บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมากกว่ากล่องกระดาษ

และสามารถอ่านเรื่องราวผ่านกล่อง เพื่อให้ลูกค้าที่รับสินค้าเกิดความรู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกและช่วยให้เกิดความรู้สึกดีกับแบรนด์มากขึ้นน่าจะดี เป็นแนวความของ คุณพรรณกร จันทรุกขา หรือคุณอูน ที่ว่า “บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมากกว่ากล่องกระดาษ”

คุณอูน เป็นทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 ของ บริษัท เอ็นพีพี บ็อกซ์ ที่กลับมาฟื้นฟูกิจการโรงงานผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกของคุณพ่อคุณแม่ที่เกือบต้องปิดกิจการไปปัญหายอดสั่งซื้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเกิดจากปัญหาการตัดราคาและการต่อรองของภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากโดยปกติแล้ว โรงงานจะเน้นผลิตกล่องลูกฟูกหรือกล่องไปรษณีย์ให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งนิยมใช้วิธีชำระเงินเป็นเครดิตเทอม ทำให้ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้รับเงินจากลูกค้าประกอบกับคุณอูนไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านนี้มาก่อน แต่ต้องการที่จะรักษาธุรกิจของครอบครัวเอาไว้ จึงต้องทำการบ้านอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียน โดยไม่ต้องรอเงินที่ถูกชำระแบบเครดิตเทอม และสามารถดำเนินการผลิตได้ทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้มีการสั่งออเดอร์เข้ามา

คุณอูนจึงเริ่มปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากการเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ไปสู่การผลิตกล่องไปรษณีย์แบบมีสต็อกสินค้า และรับชำระเงินเป็นเงินสด ทำควบคู่ไปกับการรับจ้างผลิตเช่นเดิม ซึ่งในขณะนั้นมีพนักงานหลายคนคัดค้าน เนื่องจากไม่เคยผลิตกล่องโดยที่ไม่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้ามาก่อน และเกรงว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต โดยในเดือนแรกที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ NPP Box มีรายได้ต่อเดือนเพียง 5,000 บาทเท่านั้น

คุณอูนเริ่มจากการมองหากลุ่มตลาดใหม่ในการแข่งขัน โดยคุณอูนมองว่ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์นั้นเป็นตลาดที่น่าสนใจ และกลุ่มเป้าหมายนี้โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจมี Pain point ในเรื่องการสั่งกล่องแบบมีขึ้นต่ำเพื่อให้ได้ราคากล่องที่ถูกลง คุณอูนจึงเริ่มออกเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรก คือ กล่องรักษ์โลก (Eco Box) ที่ผลิตจากกระดาษไม่ฟอก ไม่ย้อมสี เป็นกล่องไปรษณีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเจ้าแรกและเน้นการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพที่สูงกว่ากล่องที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปเมื่อเทียบกับราคาขายที่เท่ากัน โดยคุณอูนกำหนดราคาเริ่มต้นอยู่ 2.30 – 12.90 บาทขึ้นกับขนาดและที่สำคัญคือ ลูกค้าสามารถซื้อได้โดยไม่มีขั้นต่ำ

เพื่อจะสร้างความสามารถในการแข่งขัน คุณอูนมองว่า กล่องของ NPP Box มีความแตกต่าง เพราะเชื่อว่าอีกไม่นาน จะมีผู้ผลิตรายอื่นๆ หันมาผลิตและจำหน่ายกล่องไปรษณีย์สำเร็จรูปบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊คไลน์กับที่ NPP Box และมีการแข่งขันกันสูงอย่างแน่นอน

เมื่อทำธุจกิจมาได้ปีกว่าๆ คุณอูนพบว่าพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ รวมถึงผู้ประกอบการ SME หันมาสั่งผลิตทำกล่องลูกฟูกที่มีโลโก้ หรือลวดลายเฉพาะแบรนด์ของตัวเองมากขึ้นกว่า 80% จากเดิมที่ใช้กล่องไปรษณีย์สำเร็จรูป ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม จึงเกิดบริการ My Box คือ สร้างกล่องแบรนด์ (Customized) บนกล่องขนาดมาตรฐานของโรงงาน โดยเป็นกล่อง กล่องรูปแบบฝาชนมีการพิมพ์ 1 สี ไม่เกิน 6 ตำแหน่งโดยใช้ระยะเวลาการผลิต 12 วันแต่หากกรณีที่สั่งทำครั้งแรกจะมีค่าบล็อกพิมพ์ ราคาตามขนาด พร้อมจัดส่งให้ฟรี 

เมื่อมียอดสั่งซื้อ 3,000 บาทขึ้นไป เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมทั้งลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์บรรจุสินค้าลงกล่อง เช่น เชือกมัด บับเบิ้ลกันกระแทก และเทปใส แถมให้อีกด้วย โดยตั้งใจจับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อหวังให้เติบโตไปด้วยกัน

ต่อยอดจากการทำ Customized คุณอูนจึงหาแนวทางการขายกล่องบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ จากการพิมพ์โลโก้ลงกล่องขนาดมาตรฐานสู่บริการ My Design สร้างกล่องแบรนด์บนกล่องขนาดกำหนดเอง ตามแนวคิด We CO-CREATION ความสุขของพวกเรา คือการได้ร่วมสร้างสรรค์ “PACKAGING” ลูกค้าสามารถ ร่วมออกแบบกับ NPP Box ได้ตามต้องการ รวมถึงสั่งทำไส้กล่องด้านในได้ เพื่อจัดวางให้พอดีกับสินค้าของลูกค้า ซึ่งเน้นที่งานออกแบบและความแข็งแรงของกล่องเป็นสำคัญ จุดเด่นของบริการนี้ คือ การปรับแบบจนกว่าลูกค้าจะพอใจโดยไม่มีค่าออกแบบแต่อย่างใด แต่มีกำหนดขั้นต่ำการผลิตที่ 500 – 1,000 ใบขึ้นไป

นอกจากการรับออกแบบและผลิตกล่องตามที่ลูกค้าต้องการแล้ว NPP Box ยังไม่ละทิ้งการผลิตกล่องสำเร็จรูปขนาดต่างๆ โดยเน้นการสร้างออกแบบลวดลายที่มีความสวยงาม น่าสนใจ ออกเป็นคอลเล็คชั่น เพื่อจำหน่ายเป็นทางเลือก สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ได้มีงบประมาณในการสั่งทำบล็อคเพื่อผลิตกล่องของตัวเอง แต่อยากฉีกแนวออกจากกรอบเดิมๆ สร้างสีสันให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง

สำหรับในอนาคตคุณอูนตั้งใจวางแผน NPP Box ให้กลายเป็นผู้ให้บริการผู้ประกอบการ SME แบบครบวงจร ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการกล่องหรือบรรจุภัณฑ์แบบไหน จะออกแบบลวดลายตามแบรนด์อย่างไร ก็มีบริการครบและสามารถจบได้ที่ NPP Box ที่เดียว อีกทั้งยังมีบริการจัดหาพาร์ทเนอร์ในเรื่องของการบรรจุสินค้า การจัดส่งสินค้า หรือแม้แต่หากมีขั้นตอนใดทางกระบวนการผลิตที่ NPP Box ไม่สามารถผลิตได้ ก็จะจัดส่งให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป

กรณีศึกษา NPP สะท้อนให้เห็นถึง การมองหาโอกาสใหม่ๆของผู้ประกอบการ โดยดูจากเทรนด์ในตลาด ปรับเปลี่ยนสินค้าให้ช่วยลดปัญหาของกลุ่มลูกค้า (Pain reliever) และมีการสร้างคุณค่าให้มากขึ้นจากการทำ Customization เปลี่ยนจากการแค่ขายสินค้าที่มีแต่ Functional benefit ให้กลายเป็น emotional benefit สมกับแนวคิดที่ว่า บรรจุภัณฑ์ที่เป็นได้มากกว่าแค่กล่อง ได้อย่างดี

----------------

เครดิตกรณีศึกษา NPP Box โดย คุณปัญญาภา อัคนิบุตร นักศึกษาปริญญาโท สาขาทุนมนุษย์และการจัดการองค์กร วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล