The Gridiron Gang

ช่วงนี้ติดโควิดทำงานอยู่บ้านกัน ผมแนะนำให้เปิดดูหนังเรื่อง The Gridiron Gang แล้วจะเข้าใจสเต็ปเหล่านี้ในหนังสือได้ดีขึ้น (ปิดคอลัมน์แล้วไปเปิดดูก่อนค่อยกลับมาอ่านทีหลังนะครับ มีสปอยเลอร์เยอะเลย)

1. Start Now สมองของเราขี้เกียจ มันถูกสร้างมาเพื่อใช้พลังงานให้น้อยที่สุดในการอยู่รอด หากเราไม่ผลักดันสมองตัวเองให้ออกจาก comfort zone มันยินดีใช้ชีวิตอยู่กับอดีตและปัจจุบันไปตลอดกาล

โค้ช Porter คือพระเอกของเรื่อง (ซึ่งสร้างจากเหตุการณ์จริง ตัวละครมีตัวตนอยู่จริง) เขาเป็นผู้คุมนักโทษเยาวชน ซึ่งต่างมาจากหลายแหล่ง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกคนล้วนมีคดีติดตัวทั้งสิ้น บางคนขโมยของ บางคนยิงคนตาย ซึ่งการติดคุกไม่ได้ช่วยให้พวกเขาดีขึ้น

2. Discover Who You Are หาโปรตอนและนิวตรอนของคุณให้เจอการระเบิดแรงดึงดูดภายในอะตอมปลดปล่อยพลังมหาศาลแห่งนิวเคลียร์ฉันใด การระเบิดแก่นภายในของเราก็ทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนแห่งผู้นำฉันนั้น 

Porter รู้สึกทนไม่ได้เมื่อเห็นเด็ก ๆ เหล่านี้มีนิสัยอันธพาลมากขึ้น แถมออกไปแล้ว 75% กลับมาติดคุกอีก จึงอยากลงมือทำอะไรบางอย่าง ด้วยความที่เขาเป็นอดีตนักอเมริกันฟุตบอลเก่า จึงตั้งทีมกีฬาขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ มีเป้าหมายในชีวิต รู้สึกมีค่าอีกครั้ง

3. Overcome Your Activation Barrier การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างย่อมมีอุปสรรค ในวิทยาศาสตร์สิ่งนี้เรียกว่า activation barrier มันไม่ใช่กำแพงที่ขวางทางเรา แต่มันคือประตูแห่งธรรมชาติเพื่อวัดความตั้งใจจริง

เมื่อเริ่มดำริที่จะตั้งทีมฟุตบอล เขาประสบอุปสรรคมากมาย ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานหาว่าบ้า ไม่มีงบประมาณจะซื้อกระทั่งชุดยูนิฟอร์ม ทีมอื่นๆไม่กล้าแข่งด้วยเพราะกลัวจะถูกพวกนักโทษทำร้าย Porter ฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ด้วยความมุ่งมั่นและด้วยกำลังใจของแม่ของเขา จนตั้งทีมได้สำเร็จ

 4. Feel the Energy Flow เมื่อประตูนั้นเปิดออก พลังของคุณจะถูกปลดปล่อยเหมือนทำนบที่พังทลาย ไม่ใช่แค่ความรู้สึกดีที่ทำงานแล้วได้เงินเดือน แต่เป็นพลังขับเคลื่อนที่ทำให้คุณไม่สามารถหยุดนิ่งสักนาทีเดียว

เมื่อทีมแพ้อย่างยับเยินและถูกสั่งห้ามไม่ให้ลงแข่งขันอีกด้วยความอับอาย ทว่า Porter เห็นเด็ก ๆ กลับออกไปซ้อมกันแม้ไม่มีโค้ช แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายการเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมของเยาวชนเหล่านี้เริ่มประสบความสำเร็จ

5. Channel Towards Useful Work พลังงานเหมือนอาวุธปืนที่ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ คนที่ใช้พลังงานของตนไปในทางที่ถูกสามารถสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ แต่หากพลังงานถูกใช้ในทางที่ผิดก็สามารถสร้างปัญหามหันต์ได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะระวังเพียงใด สุดท้ายก็เกิดเหตุทะเลาะวิวาทอยู่ดี และลุกลามเลยเถิดไปจนนักกีฬาคนหนึ่งถูกยิง และผู้ยิงถูกตำรวจวิสามัญในสนามแข่ง โค้ช Porter เกือบจะยอมแพ้ ปล่อยให้ทีมหยุดแข่งขันตามคำสั่ง แต่เขาคิดได้ว่า หากยอมแพ้ก็คือการปล่อยให้ความรุนแรงเป็นฝ่ายชนะ จึงชักชวนหัวหน้าและเพื่อนๆร่วมมือกันหาทางให้เด็กๆได้เล่นฟุตบอลต่อไป

6. Celebrate Success ผู้นำต้องหมั่นวัดผลงานและความสำเร็จในการใช้พลังงานของตนเอง ปัจจุบันเรามีพลังแค่ไหน และเราสามารถเปลี่ยนแปลงพลังนั้นเป็นงานที่เป็นประโยชน์ได้เพียงใด

ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล พวกเขาตามหลังทีมอันดับหนึ่งอยู่เมื่อพักครึ่ง Porter ปล่อยให้เด็ก ๆ คิดได้เอง เปลี่ยนความท้อแท้ เปลี่ยนพลังลบในใจให้กลายเป็นพลังบวก เสริมแรงให้กันและกันเองจนทีมฮึกเหิมและกลับมาชนะได้ในที่สุด Leadership is born

7. Replenish Your Energy กฎข้อที่สามบอกว่าพลังงานต้องทดแทน การนั่งสมาธิ การออกกำลัง การทบทวนความคิดตนเอง ล้วนเป็นวิธีการชาร์จแบตเตอรี่แห่งผู้นำ

เนื้อเรื่องอาจจะจบแล้ว แต่หนังแฝงด้วยโมเม้นท์รีชาร์จพลังมากมาย เมื่อคุณแม่ของ Porter ป่วยหนัก เด็กๆรวบรวมเงินซื้อดอกไม้ฝากไปเยี่ยม และบอกว่าจะมอบชัยชนะในเกมส์ต่อไปเป็นของขวัญให้กับเธอ โค้ชเดินจากมาด้วยน้ำตากลบหน้าแต่เปี่ยมด้วยความยินดี

8. Sustaining the Journey พลังแห่งผู้นำไม่ใช่เทคนิคแต่มันคือการเดินทาง 8-Step of Leadership Energy เป็นวัฏจักรที่หมุนไปเรื่อย ๆ เมื่อเราเข้าใจว่ากติกาแห่งพลังงานทำงานอย่างไร เราจะสามารถขับเคลื่อนตัวเองและคนรอบตัวไปได้อย่างยั่งยืน

หนังเรื่องนี้จบลงด้วยการฉายให้ดูเหตุการณ์จริงจากในเรือนจำ ให้ดูโค้ช Porter ตัวจริง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังทำหน้าที่เปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนผู้ก้าวพลาดเหล่านี้ ให้มี better future ในสังคมอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

นี่แหละครับ พลังแห่งผู้นำ!