มีประเด็นไหนบ้างไหมที่บริษัทประกันภัยเขาจะไม่รับผิดชอบหรือจะไม่ให้การคุ้มครองบ้าง?
สวัสดีครับพบกับประกันภัยเรื่องใกล้ตัวกันเช่นเคยนะครับ ครั้งนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจกันนะครับว่า นอกจากการประกันภัยจะให้การคุ้มครองต่อความเสียหายขึ้นจากอุบัติเหตุแล้ว มีประเด็นไหนบ้างไหมที่บริษัทประกันภัยเขาจะไม่รับผิดชอบหรือจะไม่ให้การคุ้มครองบ้าง? เรามาติดตามกันครับ
คำถาม : ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 ไว้ โดยทางตัวแทนบอกว่าคุ้มครองทุกอย่างเพราะว่าทำประกันภัยชั้นหนึ่งไว้ รถชน รถคว่ำ รถหาย ประกันภัยจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด คำถามที่อยากรู้คือ...จริงไหม ? จึงอยากรู้ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างที่บริษัทประกันภัยเขาจะไม่ให้การคุ้มครอง?
คำตอบ : ปัญหานี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วทางบริษัทประกันภัยเขามาตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในการเกิดอุบัติเหตุเขาก็จะพิจารณาว่าผู้ขับขี่หรือผู้เอาประกันภัยกระทำผิดเงื่อนไขของกรมธรรม์หรือไม่อย่างไร การทำประกันภัยชั้นหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าคุ้มครองทุกสิ่งอย่างโดยไม่มีข้อแม้นะครับ เพราะว่าเมื่อเราตกลงทำประกันรถยนต์กับบริษัทประกันภัยแล้ว ทางบริษัทประกันภัยจะส่งสัญญามาให้เราที่เรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์” ซึ่งประกอบด้วยหน้าตารางกรมธรรม์ ซึ่งเป็นตัวสัญญาที่แสดงถึงรายการของรถยนต์คันที่เอาประกันภัย โดยจะมีลายมือชื่อของผู้มีอำนาจผูกพันสัญญาของบริษัทประกันภัยนั้น พร้อมเอกสารแนบท้ายสัญญาและเงื่อนไขกรมธรรม์ เงื่อนไขกรมธรรม์นี่แหละครับเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เอาประกันภัยต้องอ่านทำความเข้าใจว่าความคุ้มครองที่กำหนดเอาไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์นั้นจะให้การคุ้มครองแค่ไหน อย่างไร และ เราต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เหล่านี้ คือ ข้อกำหนดหรือข้อบังคับร่วมกันระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติต่อกัน “เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย” โดยสาระสำคัญในเงื่อนไขกรมธรรม์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนประกอบด้วย
ส่วนที่หนึ่ง : เงื่อนไขทั่วไป ก็เป็นกติกาขั้นต้นที่ผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัยจะต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาอย่างไร
ส่วนที่สอง : เงื่อนไขความคุ้มครอง ก็เป็นข้อสัญญาที่ระบุว่ากรมธรรม์ประกันภัยนี้ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มครองอย่างไร คุ้มครองเท่าไร
ส่วนที่สาม : เงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครอง ซึ่งเป็นข้อสัญญาที่กรมธรรม์ระบุว่าอะไรบ้างที่กรมธรรม์นี้จะไม่ให้ความคุ้มครอง
ดังนั้น การประกันภัยรถยนต์ประเภทหนึ่ง หรือที่พูดกันว่าประกันชั้นหนึ่งที่คุ้มครองทุกสิ่งอย่างนั้นไม่มีหรอกนะครับ ความหมายของการประกันภัยประเภทหนึ่ง นั้นเป็นประกันภัยที่ทางบริษัทสัญญาว่าจะให้การคุ้มครองต่อความเสียหายจากการชดใช้ การสูญหาย หรือ ไฟไหม้ตัวรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ และ ความเสียหายของคู่กรณีทั้งทรัพย์สิน และ ชีวิตร่างกายของคน หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้เป็นฝ่ายผิด ซึ่งทุกบริษัทประกันภัยก็จะใช้เงื่อนไขของกรมธรรม์รถยนต์ในแบบเดียวกันทั้งนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงที่ความคุ้มครองเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขกรมธรรม์ ก็จะมีทั้งสามส่วน นี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคำตอบจึงสรุปว่ากรมธรรม์รถยนต์ภาคสมัครใจประเภทหนึ่งนั้นมีข้อยกเว้นความคุ้มครอง...มีอะไรกันบ้างเรามาดูที่สรุปนำเสนอให้กับทุกท่านทราบดังนี้ครับ
เงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะแบ่งออกเป็นสองส่วนได้แก่
กรมธรรม์นี้ไม่คุ้มครองทรัพย์สินคู่กรณี
หากทรัพย์สินที่เสียหายนั้นเป็นทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย หรือ เป็นทรัพย์สินของผู้ขับขี่เอง
หากทรัพย์สินนั้นเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก, สะพาน, ทางเดิน, ถนน
ทรัพย์สินที่บรรทุกอยู่ในรถคันที่เอาประกันภัย
ทรัพย์สินที่เสียหายจากการรั่วไหลของสารเคมี ยกเว้น แก๊สรถยนต์
การใช้รถนอกอาณาเขตประเทศไทย
การใช้รถไปในทางที่ผิดกฎหมาย
การใช้รถในการแข่งขันความเร็ว
การใช้รถในการลากจูงหรือผลักดัน
การใช้รถโดยผู้ขับขี่ที่มี แอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือ เกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่ชั่วคราว หรือ ผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี
กรมธรรม์นี้ไม่คุ้มครองตัวรถประกัน
หากชิ้นส่วนของรถประกันเสียหายอันเกิดจากการเสื่อมราคา หรือ การสึกหรอของตัวรถ
การแตกหักของจักรกลหรือไฟฟ้าในรถยนต์เองอันไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ
ความเสียหายของตัวรถที่เกิดจากน้ำหนักการบรรทุก
ความเสียหายของยางรถยนต์ที่ฉีก-ขาด-ระเบิด ยกเว้นเมื่อเกิดเหตุชนแล้วทำให้ยางแตก-ขาด บริษัทก็จะพิจารณาให้ตามสภาพ
ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์
การใช้รถยนต์ผิดประเภทหรือผิดไปจากสัญญา
การใช้รถโดยผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ยกเว้น การประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่
การใช้รถนอกอาณาเขตประเทศไทย
การใช้รถไปในทางที่ผิดกฎหมาย
การใช้รถในการแข่งขันความเร็ว
การใช้รถในการลากจูงหรือผลักดัน
การใช้รถโดยผู้ขับขี่ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือ เกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่ชั่วคราว หรือ ผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี
นอกจากข้อยกเว้นความคุ้มครองทั้งสองส่วนนี้แล้ว ยังมีเงื่อนไขกรมธรรม์บางข้อกำหนดไว้อีกว่าผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองจำนวนความเสียหายส่วนแรกอีก เช่น 2,000 บาทแรกของความเสียหายต่อทรัพย์สินคู่กรณี หากผู้เอาประกันภัยนำรถไปใช้ผิดประเภทจากที่ระบุไว้ในหน้าตามรางกรมธรรม์ เช่น ในหน้าตารางกรมธรรม์ของเราระบุว่าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ปรากฏว่าในวันเกิดเหตุนั้นทางผู้เอาประกันภัยนำรถไปรับจ้างแล้วเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทรัพย์สินคู่กรณีเสียหายจำนวน 10,000 บาท กรณีเช่นนี้เมื่อบริษัทประกันภัยเขาจ่ายค่าเสียหายคู่กรณีไปแล้ว เขาก็จะมาเรียกคืนเอากับผู้เอาประกันภัย จำนวน 2,000 บาท เพราะว่าผู้เอาประกันภัยทำผิดสัญญาไว้โดยระบุว่าจะใช้รถยนต์นั้นเป็นส่วนบุคคลหรือส่วนตน แต่กลับนำไปรับจ้างซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหากเราแจ้งตั้งแต่ต้นตอนเอาประกันภัยบริษัทเขาจะเก็บอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถยนต์รับจ้างหรือให้เช่านั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อผู้เอาประกันภัยในฐานะคู่สัญญากระทำผิดสัญญาตามที่ตกลงไว้ ผู้เอาประกันภัยจึงต้องรับชอบตามตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์นั่นเอง แต่ทั้งนี้ต้องเป็นเหตุที่ผู้ขับขี่รถประกันภัยเป็นฝ่ายผิดเท่านั้นนะครับ
เพราะฉะนั้นผู้เอาประกันภัยเมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว ต้องอ่านทำความเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขของสัญญาหรือเงื่อนไขกรมธรรม์เสมอนะครับ...แล้วพบกันฉบับหน้า สวัสดีครับ