วิจารณ์ไม่แฟร์

วิจารณ์ไม่แฟร์

ใครทำอะไรก็มักภูมิใจในผลงานของตน แต่ก็มีคนวิจารณ์ผลงานของคนอื่นอย่างแรงๆ อย่างไม่แฟร์อยู่ไม่น้อย

ยิ่งในสังคมที่ให้ความสนใจกับการวิจารณ์มากกว่าผลผลิตผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คนยิ่งใส่ใจวิจารณ์งานของคนอื่น ปากเป็นเอก เลขเป็นโท เลยวิจารณ์ก่อน ทำทีหลัง ถ้าวิจารณ์กันอย่างสร้างสรรค์ ช่วยคิดช่วยดูจุดที่ควรพัฒนาปรับปรุง คำวิจารณ์มักไม่ค่อยแรง  ไม่บาดหูอะไรนัก แต่คำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์นี้มักไม่ค่อยเป็นที่สนใจของผู้คน ดูเป็นคำวิจารณ์ที่มองว่าเป็นวิชาการเกินไปที่จะใส่ใจ ยิ่งถ้าผู้คนนิยมฟังการโต้คารม คำวิจารณ์ที่ไม่มีเหตุมีผล ไร้ตรรกะ แต่เต็มไปด้วยถ้อยคำชูรสเกิดขึ้นได้เสมอ

 

       ถ้ามัวแต่ใส่ใจกับคำวิจารณ์แบบไม่เป็นธรรม การงานหลายอย่างจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ต่างฝ่ายต่างวิจารณ์กันไปมา สมองหมดไปกับการสร้างสรรค์คำวิจารณ์ หรือตอบโต้คำวิจารณ์ เหลือสมองมาใช้ในการคิดสร้างสรรค์การงานอยู่นิดเดียว งานง่ายกลายเป็นงานยอดยากจากการที่ได้รับการวิจารณ์อย่างไม่เป็นธรรม  แต่โอกาสที่จะรอดตัวจากการวิจารณ์อย่างไม่แฟร์นี้มีน้อยมาก เจอกันแน่ ๆ มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ว่าผู้คนสนใจงานของเรามากน้อยแค่ไหน

 

เป้าหมายสำคัญในการรับมือคำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์ คือ อย่าให้คำวิจารณ์นั้นมาสร้างภาระเพิ่มเติมให้กับการทำงานของเรา ทั้งด้านแรงงานที่ต้องลงมากขึ้น และด้านกำลังใจที่ทดถอย ดังนั้นในทันทีที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่เป็นธรรม อย่าเพิ่งรีบตอบโต้ แม้ไม่มีใครอยากฟังคำวิจารณ์แย่ๆ แต่อย่าเปิดช่องให้มีคำวิจารณ์แย่ๆตามเพิ่มมาอีกด้วยการตอบโต้ไปตามอารมณ์โกรธในทันทีที่ได้รับคำวิจารณ์ ใจเย็นรอเวลาเพิ่มอีกนิดก่อนคิดจะตอบโต้ 

 ในทางตรงข้าม ให้นึกไปว่าคำวิจารณ์เกิดขึ้นได้เพราะมีคนสนใจงานของเรา จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เห็นงานของเราจากมุมมองอื่นๆ ลองหาดูว่าในคำวิจารณ์แย่ๆ นั้น พอจะมีส่วนใดบ้างที่เป็นประโยชน์กับงานของเรา ถ้าหาเจออาจช่วยลดทอนความไม่พอใจต่อคำวิจารณ์นั้นลงไปได้บ้าง ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสในการตอบโต้ที่ไปสร้างโอกาสในการวิจารณ์ให้กับคนนั้นมากขึ้นไปอีก

 

ถ้าสงบพอที่จะชี้แจงคำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์นั้น ให้เริ่มต้นด้วยการชี้ทบทวนประเด็นวิจารณ์ที่ได้รับให้กระจ่างชัด คำวิจารณ์แบบไม่แฟร์มักเต็มไปด้วยสิ่งปรุงแต่งชูรสให้ดูน่าสนใจ ซึ่งสาระสำคัญอาจมีเพียงนิดเดียว ให้ชี้สาระสำคัญที่แม้จะมีอยู่น้อยนิดนั้นให้ชัดเจนออกมาก่อน แล้วชี้แจงเฉพาะสาระสำคัญนั้นด้วยหลักการและตรรกะที่คนทั่วไปยอมรับกันได้  ชี้แจงให้เห็นว่าจากมุมมองและหลักการที่ใช้ในการทำงานของเรานั้นแตกต่างไปจากมุมมองของคำวิจารณ์นั้นอย่างไร ที่เขาเห็นว่าไม่ดีนั้น ทำไมจึงดีในมุมมองของเรา งดเว้นการชี้แจงในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ

 อย่าใส่ใจกับส่วนของคำวิจารณ์ที่เป็นเพียงชูรส เพราะส่วนนั้นมักนำไปสู่คำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์ต่อเนื่องกันไปอีก ถ้าตอบโต้ในสาระสำคัญได้ดี คำวิจารณ์นั้นจะไร้ความน่าเชื่อถือลงไปมาก และใครจะวิจารณ์ต่อก็ต้องคิดหาสาระสำคัญใหม่ๆ มาวิจารณ์ ซึ่งทำให้การวิจารณ์ครั้งใหม่ทำได้ไม่ง่ายเท่าเดิม

อย่าชี้แจงคำวิจารณ์โดยเอาตัวบุคคลเป็นที่ตั้ง ให้เน้นที่สาระสำคัญโดยไม่แคร์ว่าใครเป็นคนวิจารณ์ เพราะการใส่ใจไปที่ตัวคนมักเป็นการวิจารณ์ตอบโต้ แกวิจารณ์ฉัน ฉันวิจารณ์แก กลายเป็นการโต้คารมเหมือนละครหลังข่าวไปเลย ไม่มีประโยชน์ใดเกิดขึ้นจากการวิจารณ์ตอบโต้คำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์นอกเหนือไปจากความสะใจที่ได้ตอบโต้  สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากคำวิจารณ์แย่ ๆจากคนสักคน คือเราทราบว่าคนนั้นใช้หลักคิดใดอยู่ บางทีอาจดักทางไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าวันหน้าจะมีอะไรแย่ๆ มาจากคนนี้อีก คำวิจารณ์บ่งบอกตัวตนของผู้วิจารณ์เสมอ

คนตั้งใจทำงานหลายคนถอดใจเพราะคำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เราจะไม่กลัวคำวิจารณ์นั้น หากคิดว่าสาระสำคัญของทุกคำวิจารณ์เป็นเพียงอีกมุมมองหนึ่งที่ต่างไปจากมุมมองของเรา  โดยไม่ต้องใส่ใจส่วนที่เป็นชูรส  อย่าท้อถอยเพราะชูรสของคำวิจารณ์ที่ไม่แฟร์.