'Move to Heaven' ความตายและเรื่องราวของคนตาย
Move to Heaven เป็นซีรีส์เกาหลีที่ผลิตโดย Netflix สะท้อนภาพปรากฎการณ์ทางสังคม 'การตายอย่างโดดเดี่ยว' ที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลี
บทความโดย...
กุลลินี มุทธากลิน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นรชิต จิรสัทธรรม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
Move to Heaven เริ่มฉายในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างอิงมาจากงานเขียนสะท้อนภาพปรากฎการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลีของคิมแชบยอล เจ้าของบริษัท Bio Hazzard ซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดที่อยู่ของผู้คนหลังการตาย โดยการตายดังกล่าวเป็นการตายที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครรู้ เพราะผู้ตายมีชีวิตอยู่โดยลำพังและไม่ค่อยได้มีการติดต่อกับคนอื่น ทำให้ศพของคนตายถูกพบอีกหลายวัน หลายสัปดาห์หลังจากนั้น การตายก็เกิดจากสาเหตุที่หลากหลายตั้งแต่ การป่วยตายโดยโรคร้าย รวมถึงการฆ่าตัวตาย และการถูกฆาตกรรม และแน่นอนว่าการตายดังกล่าวเป็นไปอย่างโดดเดี่ยว อาชีพดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า traumatic cleaner
ซีรีส์ดังกล่าวดำเนินเรื่องผ่านการทำงานของบริษัท Move to Heaven ที่รับจ้างเก็บกวาดที่เกิดเหตุ ตัวละครหลักคือ ฮันกือรู ที่แปลว่า ต้นไม้ เด็กหนุ่มวัย 20 ปีซึ่งเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ที่ไม่สามารถรับรู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ รวมถึงไม่ชอบการสัมผัส แต่มีความสามารถในการจดจำและปะติปะต่อข้อมูลต่าง ๆในสมองได้ราวกับอัจฉริยะ แต่ต้องมารับหน้าที่ดูแลบริษัทต่อจากพ่อคือฮันจองอูที่เสียชีวิตกะทันหัน โดยมีอาซึ่งเป็นน้องชายต่างบิดาของพ่อคือ โจซังกู ซึ่งเป็นอดีตผู้ต้องขังและ street fighter เข้ามาทำหน้าที่(ทดลอง)เป็นผู้ปกครองให้กับฮันกือรู และเป็นพนักงานใหม่ของบริษัทร่วมกับเพื่อนสาวและเพื่อนบ้านของฮันกือรูคือ ยุนนามู ซึ่งแปลว่า ต้นไม้ พล็อตเรื่องเป็นการทำงานเก็บกวาดที่เกิดเหตุและการคลี่คลายปมความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันระหว่างพ่อและอา รวมที่พัฒนาการของตัวเอกคือฮันกือรูหลังจากการตายของพ่อ
การเก็บกวาดที่เกิดเหตุของ Move to heaven ก็ไม่น่าจะมีเรื่องราวอะไรให้น่าประหลาดใจถ้าเป็นแค่การเก็บกวาดข้าวของที่ถูกทิ้งไว้หลังจากเจ้าของเสียชีวิตไปแล้วหลังจากที่พนักงานทำความเคารพดวงวิญญานของผู้ตายและบอกกล่าวว่าผู้ตายชื่ออะไร ตายในวันไหน และพนักงานกำลังจะทำการเก็บกวาดหรือขนย้ายข้าวของของผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย โดยข้าวของสำคัญที่พนักงานคิดว่ามีความสำคัญและมีคุณค่ากับผู้ตายจะถูกเก็บคัดแยกไว้ในกล่องกระดาษสีเหลืองที่จะถูกระบุชื่อผู้ตายไว้พร้อมกับคำว่า สู่สุขคติ ซึ่งจะถูกส่งต่อให้ญาติหรือคนที่ผู้ตายมีความผูกพันด้วย ส่วนข้าวของอื่น ๆที่ไม่สำคัญจะถูกเก็บลงถุงดำและทิ้งเป็นขยะไป
แต่หน้าที่สำคัญสำหรับ Move to Heaven ก็คือ การอ่านความตั้งใจหรือความมุ่งหวังของผู้ตายที่ไม่สามารถสั่งเสียหรือระบุได้ การสืบค้นหรือการอ่านดังกล่าวจึงอาศัยการปะติปะต่อคาดเดาและร้อยเรียงความสัมพันธ์ของสิ่งของต่าง ๆเข้าด้วยกัน แน่นอนว่าการคาดเดาดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนเบี่ยงเบนไปจากความจริงไปได้แบบที่ผู้ดูอาจจะคาดและคาดไม่ถึง การบรรลุความมุ่งหวังของผู้ตายก็มิอาจก่อให้เกิดสิ่งใดนอกจากความโล่งใจให้กับผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่และความคาดหวังในความสงบสุขของดวงวิญญานของผู้ตายที่ไม่อาจล่วงรู้ได้
ในแต่ละตอนของซีรีส์ที่ดำเนินเรื่องโดยการเก็บกวาดที่เกิดเหตุยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมของเกาหลี ไม่ว่าเป็นเด็กฝึกงานในสถานะแรงงานที่ถูกเอาเปรียบจากบริษัท เจ้านาย และรุ่นพี่โดยให้ทำงานที่หนักกว่าอันตรายกว่าและเลี่ยงที่จะรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แม่ที่แก่และป่วยเป็นอัลไซเมอร์ซึ่งถูกทอดทิ้งให้ต้องอยู่เพียงลำพัง ความรุนแรงของความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงในครอบครัวและในฐานะคู่รัก การไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของคนเพศสถาพเดียวกันของครอบครัวและสังคม การป่วยหนัก ภาวะใกล้ตายกับการยื้อชีวิต และการเลือกที่จะรอคอยความตายหรือฆ่าตัวตาย
การส่งออกเด็กกำพร้าข้ามประเทศเพื่อเป็นบุตรบุญธรรมของคนต่างชาติและปัญหาภาวะไร้สัญชาติของเด็กเหล่านี้ รวมถึงปัญหาการดิ้นรนหาเงินของคนด้อยโอกาสในสังคมในรูปแบบของ street fighter ปมปัญหาดังกล่าวข้างต้นแม้ว่าจะมีความแตกต่างหลากหลายแต่ก็สะท้อนให้เห็นแก่นแกนที่เคยปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง parasite ของเกาหลีคือเรื่องของการดิ้นรนของคนด้อยโอกาสหลากหลายรูปแบบในสังคม
การดิ้นรนดังกล่าวนอกจากจะเป็นการต่อสู้เพื่อสภาพการดำรงชีวิตทางกายภาพอย่างการดำรงชีพทางเศรษฐกิจแล้ว การดิ้นรนดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นผ่านการทะยานขึ้นของปัญหาสุขภาพจิตของผู้คน โดยคิมแชบยอลเองได้ระบุถึงสภาพความโดดเดี่ยว อ้างว้าง ไร้ปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน และคนในสังคม รวมถึงความล้มเหลวในการสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน และผู้คนในสังคมส่งผลทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตในรูปแบบต่าง ๆ ที่เห็นชัดเจนก็คือ ภาวะซึมเศร้า การฆ่าตัวตาย รวมถึงการสะสมขยะ ของเสีย และข้าวของต่าง ๆกองสุมรวมอยู่ในห้องและบ้านของผู้คนจนล้นทะลัก เพราะความต้องการความรัก
ความล้มเหลวและผิดหวังในปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ผลักดันให้ผู้คนต้องไปสร้างปฏิสัมพันธ์กับข้าวของหรือวัตถุแทน ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมแต่กลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคม เพราะการดิ้นรนทางจิตใจยังครอบคลุมถึงชนชั้นที่มีโอกาสมากกว่าในสังคมอย่างชนชั้นกลางด้วย
แม้ว่า Move to Heaven จะเป็นซีรีย์ที่สร้างความซาบซึ้งและได้รับคำชมจากผู้ชมจำนวนมากรวมถึงผู้เขียนโดยเฉพาะการคลี่คลายปมปัญหาและข้อคับข้องใจของผู้ตายภายหลังการตายอันเสมือนหนึ่งอิสรภาพครั้งสุดท้าย รวมถึงปัญหาความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่องแบบ feel good แต่การคลี่คลายดังกล่าวเป็นไปในระดับปัจเจกบุคคลที่ทำให้ผู้ชมได้ถอนหายใจ ปาดน้ำตา และยิ้มได้เมื่อจบแต่ละกรณีท่ามกลางความตั้งใจดี ความพยายาม ความทุ่มเทและพัฒนาการของตัวเอกแต่ละคน
แต่การแก้ปัญหาการเก็บกวาดที่เกิดเหตุแบบถาวรเบ็ดเสร็จจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีการตั้งคำถามต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงระบบปิตาธิปไตยที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การขูดรีดแรงงานในรูปแบบต่าง ๆ และความสัมพันธ์ของผู้คนในระบบทุนนิยม รวมถึงระบบปิตาธิปไตยที่นำมาซึ่งความรุนแรงทางเพศ การทอดทิ้งทารกโดยแม่ที่ท้องไม่มีพ่อหรือท้องก่อนแต่ง
การแก้ไขปัญหาที่เสมือนหนึ่งการเก็บกวาดที่เกิดเหตุแบบถาวรและเบ็ดเสร็จอาจไม่ใช่โจทย์สำหรับซีรีส์แต่เป็นโจทย์ร่วมของสังคมในระดับโครงสร้าง แล้วปรากฎการณ์สังคมภายใต้บริบทของเกาหลีใต้จากซีรีย์อย่าง Move to Heaven ส่องสะท้อนให้ผู้ชมเห็นอะไรบ้างในสังคมไทยโดยเฉพาะช่องว่างและความขัดแย้งในทุกระดับชั้นของสังคมที่ทับถมทวีขึ้นในท่ามกลางวิกฤตโควิด 19.