ลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ
ลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบไม่ใช่แค่ทำดี แต่สร้างโอกาสรับรีเทิร์นด้วย เมื่อสองสามปีก่อน ผมไปบรรยายเรื่องการลงทุนที่มหาวิทยาลัย Yale-NUS
ในประเทศสิงคโปร์ ท่ามกลางผู้ฟังเต็มห้องซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาหนุ่มสาวที่สนใจอาชีพด้านการเงิน มีคำถามเข้ามามากมาย แต่ช่วงหนึ่ง ผมถามกลับไปว่า “มีใครไหมที่จะยอมทำกำไรน้อยลง เพื่อแลกกับการลงทุนที่มีจริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม” น่าประหลาดใจที่นักศึกษายกมือกันเกือบทั้งห้อง ชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่พร้อมจะยึดถือในหลักการแม้จะมีผลให้กำไรที่ได้ลดน้อยลงไปบ้าง นับว่าโชคดีที่นักลงทุนอย่างพวกเราในยุคปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเลือกแบบนี้เพราะเราสามารถหาผลตอบแทนเท่าเดิม หรืออาจได้มากขึ้นด้วยซ้ำ โดยที่เรายังทำสิ่งดีๆให้สังคมได้ เราเรียกเรื่องแบบนี้ว่าการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Investing: Environment, Social and Governance)
ESG Investing เป็นการลงทุนที่ยั่งยืน ที่คำนึงถึงทั้งผลตอบแทนด้านการเงินและผลประโยชน์ต่อสังคม ที่ผ่านมามีกระแสตอบรับต่อการลงทุนประเภทนี้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนมุ่งหวังแต่ผลตอบแทน เพราะเชื่อว่าการลงทุนโดยคำนึงถึง ESG จะมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของพอร์ต แต่วันนี้เรารู้แล้วว่าการวิเคราะห์ด้าน ESG Investing ทำให้นักลงทุนเข้าใจดีขึ้นถึงปัจจัยที่จะก่อให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อบริษัททั้งหลาย และช่วยให้ตัดสินใจได้จากข้อมูลที่ถูกต้อง มีการศึกษาที่บ่งชี้ว่าบริษัทที่ให้ความสำคัญด้าน ESG สามารถดำเนินงานได้ดีขึ้น ส่วนบริษัทที่เพิกเฉยกับเรื่องเหล่านี้กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ตนเองและนักลงทุน ผลลัพธ์เหล่านี้ปรากฏให้เห็นจากผลประกอบการและราคาหุ้น ซึ่งสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนที่พิจารณาถึงประเด็น ESG ด้วยในการลงทุน
วิกฤตโควิด-19 ได้กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของ ESG Investing มากยิ่งขึ้น เกือบ 80% ของนักลงทุนสถาบันทั่วโลกและในเอเชียได้เพิ่มการลงทุนใน ESG ในระดับมากและปานกลางเพื่อสนองตอบต่อการระบาดของโควิด-19 โดยเห็นได้ชัดจากการไหลออกของเงินจากกองทุนทั่วไปกว่า 370,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาสแรกของปี 2020 โดยที่ขณะเดียวกันมีเงินไหลเข้ากองทุนประเภท ESG ถึง38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ESG Investing เป็นเรื่องปกติในประเทศตะวันตก และกำลังเพิ่มมากขึ้นในแถบเอเชีย แม้ ESG Investing จะยังใหม่ในตลาดเอเชีย แต่ปัจจุบันก็ยังมีถึง 250 กองทุนที่เน้น ESG โดยมีการเปิดตัวกองทุนชนิดนี้เกือบ 50 กองทุนในปี 2020 และสินทรัพย์การลงทุนโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่า 130% ทุกๆ ปี
นอกจากนี้มีการลงทุนประเภทใหม่ๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เช่น การเดินทางสัญจรในอนาคต (Smart Mobility) และการเป็นที่นิยมมากขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ถือเป็นโอกาสใหม่ด้านการลงทุน และคาดกันว่าในปี 2025 ตลาด Smart Mobility จะเพิ่มขึ้นถึงเป็นเกือบ 400,000 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ามากกว่าในปี 2018 ถึง 8-9 เท่า ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยเกื้อหนุนให้เกิดการเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด นักลงทุนนั้นไม่เพียงแต่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทนี้แต่ยังจะร่วมสร้างพลังบวกให้แก่วิวัฒนาการและความก้าวหน้าด้านการขนส่งทางถนนที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โอกาสในการลงทุนสำหรับผู้สนใจด้าน ESG นั้นมีมากมาย เช่น Smart Mobility, Sustainable Food หรือลงทุนในกองทุนรวมผสมผสาน หรือจะลงเป็นกองทุนส่วนบุคคลก็ได้ นอกจากนี้ Impact Bonds Fund ก็เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจในโครงการที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดี เช่น พลังงานที่มีประสิทธิภาพ โครงการก่อสร้างที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและที่พักอาศัยราคาเหมาะสม เพราะฉะนั้นโอกาสในการลงทุนที่มีผลดีต่องสิ่งแวดล้อมและสังคมมีมากมายให้เลือก ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการลงทุนที่ท่านเชื่อถือไว้วางใจ