สวัสดีปีใหม่ 2567

สวัสดีปีใหม่ 2567 แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน นานๆดิฉันจะได้มาพบท่านในวันตรงกับปีใหม่พอดี วันนี้อยากจะนำเกร็ดเรื่องของปณิธานปีใหม่มาฝากท่านค่ะ

ข้อมูลจาก Insightful by Insight Vacation ที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคมปี 2565 บอกว่า เท่าที่มีหลักฐานปรากฏ ปณิธานปีใหม่เริ่มมากว่า 4,000 ปีแล้ว โดยชาวบาบิโลน (Babylonians) ส่วนใหญ่จะเป็นปณิธานกล่าวคำจงรักภักดีต่อกษัตริย์ สัญญาที่จะจ่ายคืนหนี้สินและคืนข้าวของที่ยืมมาให้กับเจ้าของ โดยมีความเชื่อว่าหากรักษาสัญญา พระเจ้าจะทรงเมตตาแก่พวกเขาในปีนั้น และหากไม่รักษาสัญญา พวกเขาก็จะโชคไม่ดี

เดิมชาวโรมันโบราณเริ่มปีในเดือนมีนาคมเช่นเดียวกับชาวบาบิโลน ต่อมาเมื่อมีการกำหนดวันปีใหม่แบบเกรกอเรียนเมื่อ 46 ปีก่อนคริสตศักราช จักรพรรดิจูเลียส ซีซาร์ ได้ทรงใช้ปฏิทินใหม่และประกาศให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปี เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพโรมันเจนัส (Janus) ซึ่งเป็นเทพแห่งการเริ่มต้น หรือเทพแห่งประตู อยู่ระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด และตั้งชื่อเดือนตามชื่อของเทพเจนัสด้วย หากท่านเห็นรูปปั้นโบราณ จะเห็นว่าเทพเจนัสมีสองพักตร์ หันหน้า-หลัง ชาวโรมันถือว่าเทพเจนัสมีพักตร์หลังที่สามารถมองย้อนไปยังปีที่ผ่านมา และยังมีพักตร์ที่มองข้างหน้าไปยังปีใหม่ได้ ต้นปีชาวโรมันจึงบูชาเทพเจนัสและตั้งปณิธานที่จะประพฤติตัวดี

ในยุคกลาง พวกอัศวินก็ทำพิธีสาบานประจำปีในช่วงสิ้นสุดปี และทบทวนปณิธานที่ยึดถือกันในหมู่อัศวิน

มีหลักฐานจากงานเขียนมากมายว่า การตั้งปณิธานในปีใหม่กลายเป็นเรื่องที่ทำกันอย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 17 และในศตวรรษที่ 18 เมื่อชาวคริสต์ทำพิธีมิซาในวันสิ้นปีหรือในวันปีใหม่ ก็จะตั้งปณิธานที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นในปีที่จะมาถึง

มนุษย์ล้วนแต่มีข้อบกพร่อง และเมื่อรู้ตัวว่ามีข้อบกพร่องก็อยากแก้ไข การถือเอาโอกาสการเริ่มต้นปีใหม่ ตั้งปณิธานที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ แม้จากสถิติจะพบว่า คนที่บรรลุตามปณิธานจริงๆแล้วมีสัดส่วนไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้คนปรับปรุงตัวเอง หรือแก้ไขในจุดบกพร่องหรือข้อผิดพลาดของตนเอง

ดิฉันพยายามหาสถิติ หาไปหามาก็พบแต่ของสหรัฐอเมริกา เพราะเขาชอบทำวิจัย เก็บข้อมูล ก็ขอเอามาเป็นตัวอย่างนะคะ ดูจากข้อมูลแล้ว ดิฉันคิดว่าประเทศอื่นก็น่าจะคล้ายๆกัน แต่คนที่อยู่ในประเทศที่มีการจัดอันดับว่าประชากรมีความสุขที่สุขอย่างประเทศสวีเดน อาจจะมีคนตั้งปณิธานในปีใหม่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ข้อมูลของฟอร์บส์เฮลท์บอกว่าคนสวีเดนมีการตั้งปณิธานปีใหม่ 12-14% ในขณะที่คนอเมริกันมีการตั้งปณิธานปีใหม่ 37% จากการสำรวจล่าสุดเมื่อ 23 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และข้อมูลยังบอกด้วยว่า คนมักจะตั้งปณิธานมากกว่าหนึ่ง โดยคนตั้งปณิธาน 3 ข้อมีสัดส่วนมากที่สุดคือ 45.5% ตั้ง 2 ปณิธานมีสัดส่วน 19.5% ตั้ง 4 ปณิธาน มีสัดส่วน 13.6% ตั้ง 5 ปณิธานหรือมากกว่า มีสัดส่วน 7.4% และตั้ง 1 ปณิธานมีเพียง 2.5% เท่านั้น

จะเห็นว่า คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าอยากทำตัวให้ดีขึ้น 

ทีนี้มาดูผลลัพธ์ที่ออกมาค่ะ ตั้งแล้วทำได้ไหม มีคนเพียง 6% ที่ฟอร์บส์เฮลท์สำรวจที่บอกว่า หลังจากผ่านไปหนึ่งปีหรือกี่ปีก็ตาม ยังทำตามปณิธานได้อยู่ และคนส่วนใหญ่คือ 22% ทำตามปณิธานได้ 2 เดือน และอีก 22% ทำตามปณิธานได้ 3 เดือน แล้วสัดส่วนก็ลดลงไปเรื่อยๆค่ะ ทำได้ 4 เดือน มีสัดส่วน 13% 5 เดือน มีสัดส่วน 9% 6 เดือน 5% 7 ถึง 10 เดือนมีสัดสัวนอย่างละ 2% และพอ 11 กับ 12 เดือน สัดส่วนก็ลดลงเหลือ 1% หมายถึงว่าคนที่ตั้งใจทำก็จะทำได้แล้วทำจนเป็นนิสัย ส่วนคนที่ยอมแพ้ หลังจากสามเดือนไปแล้วก็จะเริ่มถอยไป

ข้อมูลจาก Insightful ซึ่งเป็นข้อมูลของปี 2564-5 บอกว่า จากการสำรวจพบว่าคนอเมริกันมีการตั้งปณิธาน 41% และบรรลุเป้าหมาย 9% โดยในปี 2565 มีประเด็นเรื่องสุขภาพมาเป็นอันดับต้นๆ คือ 23% ตั้งปณิธานที่จะมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น 21% ตั้งเป้าหมายปรับปรุงเรื่องส่วนตัวและการมีความสุข 20% ตั้งปณิธานลดน้ำหนัก

ส่วนของฟอร์บส์เฮลท์ ผู้รับการสำรวจ 48% อยากมีสุขภาพดี 36% อยากมีสุขภาพจิตดี 38% อยากมีการเงินดีขึ้น 34% อยากลดน้ำหนัก และ 32% อยากปรับปรุงเรื่องโภชนาการ โดยคนส่วนใหญ่ คือ 80%เชื่อว่าจะทำได้ตามปณิธาน และมี 6% ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ตามปณิธานไหม

ทั้งนี้มีข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับการตั้งปณิธานของทุกท่านในปีนี้ค่ะ เขาพบว่า หากตั้งเป้าหมายที่มีการกระทำ ดิฉันขอขยายความว่า เช่น ต้องเดินออกกำลัง 30 นาทีทุกวัน จะบรรลุได้ง่ายกว่า คือมีโอกาสบรรลุ 58.9% ในขณะที่ถ้าเป็นเป้าหมายที่มีการหลีกเลี่ยง เช่น ไม่รับประทานอาหารหวาน ไม่สูบบุหรี่ จะมีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้ต่ำกว่า คือ 47.1%

เอาละค่ะ ถ้าท่านยังไม่ได้ตั้งปณิธานในปีใหม่ ดิฉันขอนำเสนอสามข้อค่ะ 1. ดูแลสุขภาพให้ดีกว่าเดิม ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต 2. ดูแลสุขภาพการเงินให้ดี ทั้งเรื่องการใช้จ่ายไม่เกินตัว การออมเพื่อความมั่นคงของชีวิต และการลงทุนเพื่อให้เงินมีโอกาสงอกเงย และ 3. ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แบ่งปัน มีเมตตาและให้อภัย ต่อเพื่อนมนุษย์ ถ้าคนไทยทุกคนมีปณิธานสามข้อนี้ และตั้งใจทำให้บรรลุ ประเทศไทยจะมีประชากรที่แข็งแรง สังคมจะน่าอยู่ อาชญากรรมจะลดลง ระดับความสุขของเราทุกคนต้องเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะและขออวยพรให้ท่านบรรลุปณิธานปีใหม่ของท่านด้วยเทอญ