ความสุขแบบใดที่แสวงหา?
ปีใหม่ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของการส่งความสุขให้แก่กันและกัน ในเกือบทุกงานมงคลก็จะมีการอวยพรในเรื่องความสุข ขณะที่เป้าหมายในชีวิตของหลายๆ คนก็เป็นเรื่องความสุข ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วความสุขแบบใดที่แต่ละคนต้องการหรือแสวงหา?
นิยามความสุขของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ความสุขอาจจะเป็นการได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือ การได้รับประทานอาหารอร่อย หรือ การได้อยู่นิ่งๆ ทำสิ่งที่ต้องการ หรือ การได้พูดคุยสังสรรค์เฮฮา หรือ การมีสุขภาพที่ดี หรือ การมีเงินใช้ ฯลฯ
มีการแบ่งชนิดของความสุขที่พบเจอออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 7 ประเภท ประกอบด้วย
1. ความสุขทางร่างกาย เช่น เมื่อได้นอนลงกับเตียงนุ่มๆ หลังวันทำงานอันยาวนาน หรือ การได้แช่ในน้ำอุ่น
2. ความสุขทางปัญญา เช่น การได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ หรือ การได้อ่านหนังสือที่สนุก หรือ การได้ใช้สมองคิดและออกแบบสิ่งใหม่
3. ความสุขทางสังคม เช่น การได้ใช้เวลากับคนที่รัก การพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือ การได้ทำงานร่วมกับคนอื่น
4. ความสุขทางจิตใจ เช่น การได้นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ หรือ เดินเล่นอย่างสงบในสวนที่ร่มรื่น
5. ความสุขทางอารมณ์ เช่น การได้รับประสบการณ์ที่ดี การได้รับคำชมเชย หรือ การได้พักผ่อนและดูหนังที่สนุก
6. ความสุขในการค้นหา เป็นความสุขที่ได้จากการทดลอง ค้นหา และพบเจอสิ่งใหม่ เช่น การท่องเที่ยว การได้ทานอาหารรสใหม่ๆ หรือ การไปสถานที่และเปิดประสบการณ์ใหม่
7. ความสุขจากความสำเร็จ เป็นความสุขที่เกิดจากการสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น การเรียนจบ การได้คะแนนที่ดี งานที่สำเร็จ
ความสุขทั้ง 7 ประการข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในชนิดของความสุขทั้งหมด และความสุขเหล่านี้ก็มีความอาจจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือเหลื่อมกันได้ นอกเหนือนี้ยังอีกแนวทางหนึ่งในการคิดเรื่องของความสุข คือการแบ่งความสุขตามการแสวงหาและระยะเวลา ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 3 ประเภท ประกอบด้วย
1. การแสวงหาความสุขในปัจจุบันให้มากที่สุด โดยไม่สนใจต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อแบรนด์เนมที่ต้องการ ซึ่งได้นำไปสู่ความสุขจากการได้เป็นเจ้าของแบรนด์ดังกล่าว โดยไม่คำนึงว่าจะนำไปสู่การหนี้สินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกตัวอย่างที่พบบ่อยๆ คือผู้ที่มีพฤติกรรมรับประทานเพื่อนำไปสู่ความสุข มักจะมีคติประจำใจว่า “พรุ่งนี้ค่อยลด” ดังนั้นจะรับประทานตามที่พอใจและต้องการ โดยไม่คำนึงถึงอนาคต
ผู้ที่นิยมแสวงหาความสุขในปัจจุบันให้มากที่สุด มักจะเชื่อการโฆษณา ติดตามสื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด ติดตามบรรดาอินฟลูเอนเซอร์หรือดาราต่างๆ เป็นกลุ่มที่มีลักษณะ FOMO (Fear of missing out) ไม่ค่อยอดทนต่อสิ่งเร้า (เช่น อาหารที่วางอยู่ข้างหน้า)
2. การหาความสุขแบบเล็กๆ แต่เป็นประจำ เป็นผู้ที่แสวงหาความสุขจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การได้ดื่มกาแฟดีๆ วันละแก้ว หรือ การวางแผนเที่ยวสำหรับวันหยุด หรือ การเล่นเกมสั้นๆ หรือ ดูคลิปน่ารักก่อนนอน เป็นการให้รางวัลตนเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การแสวงหาความสุขในลักษณะนี้ เป็นการหาความสุขในปัจจุบันแบบต่อเนื่อง สม่ำเสมอทีละเล็กละน้อย โดยไม่กระทบต่ออนาคตเหมือนกลุ่มแรก
3. กลุ่มเน้นความสุขในระยะยาว เป็นกลุ่มที่มองความสุขอันยิ่งใหญ่ในระยะยาวเป็นหลัก เช่น การมีสุขภาพที่ดีและมีเงินพอใช้เมื่อเกษียณ ทำให้วิถีการดำรงชีวิตในปัจจุบันจะเป็นไปเพื่อมุ่งเน้นต่อการบรรลุความสุขในระยะยาวเป็นหลัก
ไม่ได้จำกัดว่าคนๆ หนึ่งจะแสวงหาความสุขตามแนวทางใดแนวทางหนึ่งเท่านั้น แต่ละคนสามารถที่จะผสมผสานแนวทางทั้ง 3 แนวทางเข้าไว้ด้วยกันได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักตนเองว่านิยมความสุขประเภทใด และต้องการแสวงหาความสุขในแนวทางใดมากกว่า เนื่องจากนิยามความสุขของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่การรู้จักตนเองนั้น ก็เพื่อสุดท้ายแล้ว จะได้มีแนวทางเฉพาะตนเพื่อสร้างความสุขที่ต้องการ