ทักษะหรือเทคโนโลยี
ย้อนไปในประวัติศาสตร์มนุษย์สักร้อยกว่าปีที่แล้วพาหนะหลักของผู้คนทั่วโลกยังคงพึ่งพาสัตว์อย่างม้า ลา วัว ฯลฯ การถือกำเนิดของเครื่องยนต์ที่อาศัยพลังไอน้ำไปจนถึงเครื่องยนต์สันดาปภายในจึงถือเป็นเรื่องใหม่และถือเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกไปอย่างสิ้นเชิง
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้รถยนต์ก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายมหาศาล นับตั้งแต่รถยนต์ 3 ล้อที่ Mercedes Benz ทำได้สำเร็จในอดีต จนมาถึงยุคสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ที่เบนซ์เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์และยานพาหนะทางการทหารมากมายหลายรุ่น
ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสในพิพิธภัณฑ์ Mercedes Benz ประเทศเยอรมันนี ซึ่งจะเริ่มที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดไล่ลงมาผ่านยุคต่าง ๆ ทำให้เราเห็นพัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกที่มี Mercedes Benz เป็นผู้นำ
นวัตกรรมที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเช่นระบบเบรก ABS ระบบถุงลมนิรภัย ฯลฯ ก็ถือกำเนิดขึ้นมาในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลยังไม่ทันได้ตั้งไข่
การทำงานจึงต้องอาศัยความแม่นยำของระบบกลไกต่างๆ และคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นที่มีข้อจำกัดอยู่มากมายไม่ได้มีเซ็นเซอร์และระบบสื่อสารข้อมูลอันทันสมัยเหมือนในยุคนี้ แต่ระบบทั้งหมดก็ทำงานได้สมบูรณ์แบบอย่างน่าอัศจรรย์สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของเยอรมันที่เข้มแข็งมานับร้อยปี
ชั้นล่างๆ ของพิพิธภัณฑ์จะเป็นรถยนต์ต้นแบบและรถแข่งในประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะรถ Formula 1 ในการแข่งขัน Grand Prix ที่คนไทยรู้จักกันดีซึ่ง Mercedes Benz ได้ผ่าครึ่งรถยนต์ทั้งคันให้ชมอย่างละเอียดทำให้เราเห็นความละเอียดพิถีพิถันในทุกจุด
แต่ไฮไลท์ที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยีในยานยนต์สำหรับการแข่งขันจะอยู่ที่โรงงาน AMG ซึ่งเดิมทีเป็นสำนักงานที่ปรับแต่งรถยนต์ Mercedes Benz ทั้งในด้านเครื่องยนต์และการตกแต่งภายนอกให้สวยงามและดุดัน โดยบริษัทนี้เป็นของอดีตพนักงาน Mercedes Benz ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเพราะขายได้ทั้งรถแข่งและชุดแต่งสำหรับคนทั่วไปจน Mercedes Benz ซื้อกิจการมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในปัจจุบัน
ความพิเศษของโรงงาน AMG อยู่ที่รถยนต์รุ่นเพิเศษที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ 1 คนต่อ 1 เครื่อง
ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงงานสมัยใหม่ที่นิยมใช้ระบบสายพานการผลิตร่วมกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อความแม่นยำ แต่ AMG กลับเน้นการใช้ฝีมือแรงงานของช่างมากกว่าเทคโนโลยี
ในความเป็นจริงแม้จะดูเหมือนใช้ทักษะของช่างเป็นหลักแต่ก็ยังมีเซ็นเซอร์ต่าง ๆ และระบบตรวจสอบที่ช่วยให้ช่างทำงานได้อย่างแม่นยำไม่แพ้เครื่องจักร โดยช่างทุกคนจะต้องลงชื่อและลายเซ็นของตัวเองติดตั้งไว้ในป้ายกำกับที่อยู่ในรถยนต์รุ่นพิเศษเหล่านี้ทุกคันเพื่อแสดงความรับผิดชอบในการผลิต
ความพิถีพิถันเหล่านี้ทำให้เราเห็นการผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการผลิตในโรงงานสมัยใหม่กับการใช้ทักษะขั้นสูงของวิศวกรและช่างยนต์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน ซึ่ง Mercedes Benz
สร้างสมดุลของทั้ง 2 แนวทางนี้เพื่อมั่นใจว่าสร้างรถยนต์และเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจึงจำเป็นต้องมีรากฐานที่ดีและรู้จักสมดุลของทั้งเทคโนโลยีกับงานฝีมือ และทำให้เราเห็นว่าคนก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของการผลิต
เพราะไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องปรับสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับลูกค้า ซึ่งก็คือคนและต้องทำโดยคนซึ่งก็คือช่างฝีมือของเรานั่นเอง การมีวิวัฒนาการและพัฒนาการก้าวไปไกลแค่ไหน “คน” ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด