ททท.ปิ๊งไอเดีย “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ดึง รร. สมทบช่วยจ่าย 40% รวม 4 ล้านสิทธิ
“ททท.” นัดถกเอกชนวันนี้ (27 เม.ย.) ดัน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” เสนอ “ศบศ.” พิจารณา หวังกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” โลว์ซีซั่น ปิ๊งไอเดียอ้อน "โรงแรม" ช่วยจ่ายค่าห้อง 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน เหมือนรัฐช่วยจ่ายใน 4 เฟสที่ผ่านมา เป็นฝั่งละ 2 ล้านสิทธิ รวม 4 ล้านสิทธิใหม่
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ (27 เม.ย.) ททท.จะประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” หวังเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย.2565
โดย ททท.อยู่ระหว่างตรวจสอบงบประมาณคงเหลือของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” จำนวน 2 ล้านสิทธิซึ่งประชาชนเข้าไปจองสิทธิครบเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และจะหมดเขตสิ้นสุดการใช้สิทธิในวันที่ 31 พ.ค.นี้ หากงบฯของเฟส 4 เหลือ ก็สามารถนำมาเพิ่มจำนวนสิทธิใหม่ในเฟส 5 ได้ แต่ถ้าไม่เหลือ ททท.จะชงของบฯจากรัฐบาลเพิ่ม
ทั้งนี้ ททท.ต้องนำข้อเสนอโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 หารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาเพิ่มเติม พร้อมประเมินผลการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 หากได้รับการเห็นชอบ จะนำเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
“ททท.มีแนวคิดด้วยว่าควรขยายจำนวนสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เป็นจำนวนรวม 4 ล้านสิทธิใหม่ แบ่งเป็นรัฐช่วยจ่ายค่าห้องพัก 40% หรือสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำนวน 2 ล้านสิทธิ และอีกส่วนเป็นเอกชนโรงแรมช่วยจ่าย 40% สมทบอีกจำนวน 2 ล้านสิทธิ โดยจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแรมส่งโควต้าจำนวนห้องพักบางส่วนที่จะนำเข้าร่วมโครงการฯในส่วนเอกชนช่วยจ่าย ไม่จำเป็นต้องนำห้องพักเข้าร่วมทั้งหมด ซึ่งจะขอหารือกับภาคเอกชนโรงแรมในที่ประชุมร่วมกับ ททท.วันนี้ด้วย”
แนวคิดดังกล่าวถือเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายปี 2565 ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯและ ททท.ซึ่งตั้งเป้าจำนวนคนไทยเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 656,000 ล้านบาท
โดยถือเป็นปีที่ต้องเผชิญปัจจัยความท้าทายหลายอย่าง เช่น สถานการณ์เงินเฟ้อจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงนานาประเทศทยอย "เปิดประเทศเต็มรูปแบบ" เพื่อแข่งขันดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องตลาดไทยเที่ยวนอกที่มีดีมานด์อัดอั้น ประกอบกับปัจจุบันสายการบินต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดขายเส้นทางบินระหว่างประเทศยอดนิยมของคนไทยแล้ว เช่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น