“วีระศักดิ์” แนะผ่าตัดโครงสร้างท่องเที่ยวไทย ผนึกรัฐ-เอกชนแก้โจทย์ใหญ่
“วีระศักดิ์” อดีต รมว.การท่องเที่ยวฯ แนะผนึกกำลังรัฐ-เอกชนผ่าตัดโครงสร้างท่องเที่ยวไทย แก้โจทย์ใหญ่รอบทิศ ทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน เร่งออกกฎหมายใหม่เป็นบทเฉพาะกาลเพื่อแก้ไข-สร้างกลไกที่ถูกต้อง นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อยอดภาคท่องเที่ยวรับการฟื้นตัวยุคหลังโควิด
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวบรรยาย “แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด” ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า การออกแบบนโยบายส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นอกจากประเทศไทยเดินหน้าเปิดหน้าต่างรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำร่องด้วยโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 นำมาสู่ความกล้าเปิดหน้าต่างอีกหลายๆ บาน กระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่อื่นๆ และผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้นแล้ว อีกโจทย์สำคัญของการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยวไทยคือการดึงพนักงานกลับมา โดยขอเสนอให้มีการนำเงินจากกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว มาพัฒนาบุคลากรท่องเที่ยว ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสร้างพนักงานให้ตอบโจทย์ธุรกิจยุคหลังโควิด-19
“การสร้างคนภาคท่องเที่ยวไทยในยุคหลังโควิด เป็นประเด็นอันดับ 1 ที่ภาครัฐต้องส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการชักชวนลูกน้องกลับมาทำงาน และช่วยลับคมพนักงานที่ยังทำงานอยู่มีความแหลมคมขึ้น สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking)”
ขณะเดียวกันอยากให้หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องถือโอกาสผ่าตัดวงการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบใหม่ (Redesign) ด้านโครงสร้างภาคท่องเที่ยวไทยในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังทยอยกลับมาเที่ยว และผู้ประกอบการกำลังฟื้นธุรกิจและดึงพนักงานกลับมาทำงานอีกครั้ง ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย อยากจะชักชวนหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันออกกฎหมายเป็นบทเฉพาะกาล (ชั่วคราว) 3 ปี เช่น กฎหมายด้านโรงแรม เพื่อรีบแก้ไขและสร้างกลไกที่ถูกต้องอย่างถาวร และกฎหมายเกี่ยวกับเรือนำเที่ยว เพราะปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่มากำกับโดยตรง ทั้งประเด็นการนำเรือนำเที่ยวออกจากฝั่ง ต้องออกอย่างไรให้ถูกกฎหมาย และการออกแบบเรือนำเที่ยวให้เป็นไปตามกฎหมาย
อีกโจทย์ที่อยากเห็นคือการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์มาต่อยอดภาคท่องเที่ยว ด้วยการชูซอฟเพาเวอร์ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร มาพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ในเชิงโครงสร้าง หลังจาก “มิลลิ” ศิลปินแร็ปเปอร์สาวชาวไทยสามารถจุดกระแสข้าวเหนียวมะม่วงสำเร็จ
“เพราะภาคท่องเที่ยวสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ได้อีกมาก แต่ต้องมีกฎหมายมารองรับ จึงอยากชักชวนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาลองของใหม่ มาลองออกกฎหมายใหม่เป็นการชั่วคราวในช่วง 3 ปีนี้”
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้แม้ภาคท่องเที่ยวไทยจะมีแผนงานที่ดี แต่ยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ประกอบกับปัจจุบันภาคท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับสาธารณสุขอย่างมากแบบไม่เคยเป็นมาก่อน หากแก้ไขจุดนี้ได้จะช่วยลดความสับสนในการปฏิบัติงาน จากนั้นดำเนินการประเมินงาน เลิกทำในสิ่งที่ไม่เข้าท่า และต้องรับมืออย่างรวดเร็ว