ก.ล.ต. พบธุรกิจโรงแรม5-10ราย สนใจ ‘รีทบายแบ็ค’ มูลค่าเสนอขายแตะ 2 หมื่นล้าน
ก.ล.ต. เผย ครม.เห็นชอบ ยกเว้นภาษี -ลดค่าธรรมเนียม " รีทบายแบ็ค" เอื้อผู้ประกอบการเข้ามาระดมทุน เผย จากสำรวจ พบ 5-10 บริษัทสนใจ มูลค่าเสนอขาย 2 หมื่นล้าน ล่าสุดอนุมัติไฟลิ่งเพิ่มอีก 1 บริษัท ด้านคลังคาด มูลค่าลงทุนในทรัพย์สินราว 3 หมื่นล้าน หลังมีมาตรการสนับสนุน
คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีแก่นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ และลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 0.01% สำหรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อกำหนดในการซื้อทรัพย์สินคืน หรือ REIT buy - back ( รีทบายแบ็ค)
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด -19 หรือได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอันเป็นเหตุให้เกิดการขาดสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ เข้าระดมทุน โดยกระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่า กองรีทบายแบ็ค จะมีการลงทุนในทรัพย์สินประมาณ 30,000 ล้านบาท
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้สำรวจความสนใจระดมทุนผ่านการจัดตั้งกองรีทบายแบ็ค ของผู้ประกอบการต่างๆ ผ่านสมาคมหอการค้าไทย ในปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่สนใจเป็น "ธุรกิจโรงแรม" มีประมาณ 5-10 ราย คาดว่าจะมีมูลค่าการขายสินทรัพย์ประมาณ 20,000 ล้านบาท หรือมูลค่าเฉลี่ยต่อรายที่ 2,000-3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้คณะทำงานของก.ล.ต. พร้อมพิจารณาดำเนินการอย่างเต็มที่ คาดว่าจากนี้กองรีทบายแบ็ค จะได้รับการตอบรับที่ดี จากผู้ประกอบการในเการเข้ามาระดมทุนหลังจากได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีและการลดค่าธรรมเนียมดังกล่าว
แต่จะมีผู้มาระดมทุนผ่าน กองรีทบายแบ็ค เท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ประกอบการว่า ตอนนี้ยังมีความต้องการสภาพคล่องอีกหรือไม่ และหากมีทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น อาคาร โรงแรม หรือสำนักงานให้เช่า ซึ่งสามารถตกลงราคาได้อย่างสมเหตุผล สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีคุมกับความเสี่ยงได้ ก็สามารถพิจารณาใช้ รีทบายแบ็ค เป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง
"ตอนนี้รีทบายแบ็ค ไม่มีอุปสรรคทางภาษีและค่าธรรมเนียมอีกต่อไปแล้ว โดยมีสิทธิประโยชน์เทียบกับเครื่องมือการระดมทุนช่วยเสริมสภาพคล่องในฝั่งตลาดการเงิน"
สำหรับ ปัจจุบัน ก.ล.ต.ได้อนุมัติ รีทบายแบ็ค ให้เสนอขายได้แล้ว แล้ว 2 กองทุน สำหรับกองทุนแรกที่เสนอขายไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ รอยัล ออคิด ฮอสพิทาลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน (GROREIT) มูลค่าเสนอขาย 3,500 ล้านบาท
ส่วน กองที่2 ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งแล้วเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้ คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่า ดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน (DTPHREIT) มูลค่าราว4,000 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุน ได้แก่ 1. สิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าสังหาริมทรัพย์สำหรับโครงการโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ MRB รวมถึงสิทธิการเช่าช่วงงานระบบ และสิ่งติดตรึงตราที่ใช้ในการดำเนินโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด และ 2.กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์สำหรับโครงการยู เขาใหญ่