"ประยุทธ์" ร่วม Nikkei Forum ชู 3 ประเด็นอาเซียนเดินหน้าเศรษฐกิจ ลงทุนยั่งยืน

"ประยุทธ์" ร่วม Nikkei Forum ชู 3 ประเด็นอาเซียนเดินหน้าเศรษฐกิจ ลงทุนยั่งยืน

นายกฯ กล่าวปาฐกถาในการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ที่ญี่ปุ่น ชู 3 เรื่องสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - บทบาท อาเซียน สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ พหุภาคี การรวมกลุ่มความร่วมมือ และสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน พร้อมดึงญี่ปุ่นลงทุน EV  - ดาต้าเซนเตอร์ - BCG

วันนี้ (26 พฤษภาคม 2565) เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ณ ห้อง Fuji โรงแรม Imperial พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวปาฐกถาในการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 27 โดยผู้ดำเนินรายการคือ นายทากาฮาชิ โทรุ (Takahashi Toru)

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญ ว่านายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงหัวข้อหลักของการประชุม ต่อคำถามว่าเอเชียจะมีบทบาทอย่างไรได้บ้างเมื่อช่องว่างขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในทุกมิติ เอเชียจะมีส่วนในการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งในทุกด้านได้อย่างไร และคำตอบคือ เอเชียจะต้องยืดหยุ่นต่อการปรับตัว เอเชียจะต้องสนับสนุนความยั่งยืน จะต้องสร้างสังคมที่ครอบคลุมมากขึ้น เพราะสองปีที่ผ่านมา ได้สอนให้รู้ว่า ความยืดหยุ่นเพื่อปรับตัวต่อความชะงักงันใดๆ เป็นพื้นฐานในการประคับประคองตนเอง การเจริญเติบโตจะไม่มีความหมายหากไม่มีความยั่งยืน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทปัจจุบันที่การเติบโตเปราะบางมาก นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลของสรรพสิ่ง และก้าวไปสู่ความยั่งยืน และนายกรัฐมนตรีได้แบ่งปันมุมมองของไทย 3 สิ่งที่เชื่อว่าเอเชียจะร่วมกันทำได้เพื่อก้าวข้ามสถานะปัจจุบัน มุ่งให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

1.กระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จะต้องทำให้ตลาดเปิดกว้างและครอบคลุมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีภูมิต้านทานมากพอที่จะปรับตัว และรับมือกับความชะงักงัน และความไม่แน่นอนอย่างทันท่วงที พร้อมกับมีห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค และของโลกที่มีความเข้มแข็ง ยืดหยุ่นและไม่ถูกตัดขาด จึงต้องสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มีกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน โดยมี WTO เป็นแกนกลาง และต้องสร้างสภาพแวดล้อมการค้า และการลงทุนที่เสรี เป็นธรรม เปิดกว้าง ไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส ครอบคลุม และคาดการณ์ได้

โดยในส่วนของไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกการค้า และการลงทุน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยให้สูงขึ้นกว่าเดิม มีนวัตกรรม และเอื้ออำนวยแก่นักธุรกิจ และนักลงทุน

ไทยมองว่า จำเป็นต้องเตรียมกำลังคน และโครงสร้างพื้นฐานรองรับภูมิทัศน์ทางการเงิน และเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยกำลังยกระดับและขยายระบบขนส่งทางราง และท่าอากาศยานทั่วประเทศ และกำลังดำเนินการเพื่อพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการบริหารจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ การส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนการสร้างบุคลากรดิจิทัลที่มีทักษะสูง ทั้งนี้ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ที่น่าดึงดูดในภูมิภาค

ซึ่งต้องขอบคุณญี่ปุ่นสำหรับความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และความช่วยเหลือที่ผ่านมา ตลอดจน ไทยภูมิใจที่ระบบการธนาคารของไทยเป็นหนึ่งในระบบธนาคารที่ก้าวหน้ามีระบบพร้อมเพย์ สามารถโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไทย และสิงคโปร์ได้เชื่อมระบบชำระเงินดิจิทัลครั้งแรกของโลก และได้เชื่อมระบบในลักษณะเดียวกันกับญี่ปุ่น กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซียแล้ว จึงหวังว่าจะสามารถเชื่อมต่อระบบกับประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเอเปค

 

2. ต้องสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป เพราะไม่มีประเทศใดจะสามารถรับมือ และจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้เพียงลำพัง ไทยเชื่อมั่น และพร้อมสนับสนุนแนวคิดพหุภาคี และขับเคลื่อนความร่วมมือระดับพหุภาคีต่อไปให้มากที่สุด เอเปคเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ไทยจะสามารถแสดงการสนับสนุนระบบพหุภาคีได้ ในการจัดการประชุมเอเปค 2022 ไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขับเคลื่อนงานของเอเปค ไม่ย่อท้อ และขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้เอเปคยังคงเดินหน้าต่อ เพื่อให้เอเปคมีผลลัพธ์ที่มีความหมายและเป็นรูปธรรม เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในเอเชีย-แปซิฟิกทุกคน

โดยนายกรัฐมนตรีได้ กล่าวถึง หัวข้อหลัก ของไทย “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์” ไทยผลักดันให้ทบทวนการหารือเรื่อง FTAAP โดยคำนึงถึงประเด็นการค้า และการลงทุนใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม และหวังว่าจะมีการต่อยอดงาน การเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน การลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน และการรวมตัวทางเศรษฐกิจ หัวข้อหลักที่ 2 “เชื่อมโยงกัน” ในทุกมิติ ไทยมุ่งจะเชื่อมโยงภูมิภาคเข้าด้วยกัน โดยได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อหาแนวทางที่จะรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัย และไร้รอยต่อ การใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกันได้ในเอเปค และการขยายขอบเขตการใช้บัตรเดินทางของนักธุรกิจในเอเปค เป็นต้น

 หัวข้อหลักที่ 3 “สู่สมดุล” ในทุกทาง ไทยผลักดันการส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยจุดมุ่งหมายประการหนึ่งที่สำคัญ คือ การทำให้ SMEs ธุรกิจที่นำโดยสตรี และธุรกิจเล็กๆ ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจ สามารถเข้าถึงตลาด และเงินทุนได้มากขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขัน และมีโอกาสที่จะเติบโต นอกจากนี้ ไทยเสนอให้มีการรับรองเอกสารระดับผู้นำ ชื่อว่า “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ” ซึ่งเป็นเอกสารที่จะวางรากฐานเอเปคด้านความยั่งยืนที่ครบถ้วนที่สุด ทั้งในด้านการปรับตัวและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องอย่างมากกับนโยบายการเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น และผมขอขอบคุณญี่ปุ่นที่สนับสนุนวาระ BCG ของไทย

 

3. การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจะต้องเกิดควบคู่ไปกับความยั่งยืน ขอเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย หนทางไปสู่ความยั่งยืนของไทยกำลังเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 โดยได้เริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม EV แล้ว และกำลังเร่งสร้างระบบนิเวศน์เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว และในขณะนี้ มีเรือ EV อัจฉริยะล่องอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อขนส่งผู้โดยสารทางน้ำเพื่อลดปริมาณคาร์บอนในระบบขนส่งมวลชนทางน้ำ ไทยหวังว่าจะเป็นหนึ่งในฐานการผลิต EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคตอันใกล้ จึงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านนี้

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์