ททท.ชู Soft Power ดึงสาวญี่ปุ่นคลั่งรัก "ซีรีส์วายไทย" เที่ยวตามรอยคู่จิ้น!
เมื่อกระแส “ซีรีส์วายไทย” หนึ่งในพลังแห่ง Soft Power ดังไกลไปทั่วโลก!! แม้แต่ “สาววายญี่ปุ่น” ผู้จุดพลุวัฒนธรรมย่อย หรือ ซับคัลเจอร์ (Subculture) นี้ส่งออกข้ามพรมแดน ยัง “โดนตก” ไปตาม ๆ กัน
เป็นโอกาสให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ปฎิบัติการต่อยอด จัด “กรุ๊ปทัวร์ทดลอง” ดึงชาวญี่ปุ่นผู้มีใจภักดิ์ต่อ “คู่จิ้น” ชื่อดังของซีรีส์วาย หรือ “Boy’s Love” (BL) สัญชาติไทย มาท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ต่างๆ เมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโอซากา ฉายภาพการทำตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบซีรีส์ “Thai BL Drama” ในตลาดญี่ปุ่นว่า ย้อนไปช่วงแรกของวิกฤติโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ทั่วโลกต้อง “ล็อกดาวน์” ราวเดือน เม.ย.2563 เมื่อชาวญี่ปุ่นต้องกักตัวอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอก ความบันเทิงที่พอจะหล่อเลี้ยงจิตใจในขณะนั้นคือการชมภาพยนตร์และซีรีส์
“เมื่อผู้ชมชาวญี่ปุ่นได้ลองดูซีรีส์วายของไทยแล้ว ปรากฏว่าโดนตก ดูแล้วชอบ ติดใจ ด้วยเนื้อเรื่องที่แตกต่างกับซีรีส์วายของญี่ปุ่น โดยเฉพาะประเด็นวัฒนธรรม เช่น ชีวิตนักศึกษาไทย ธรรมเนียมว้ากเกอร์ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกประเด็นทางสังคม เช่น การเปิดเผยตัวตน ครอบครัวเข้าใจและเปิดกว้างรับความหลากหลายทางเพศ เรื่องแบบนี้ยังไม่มีในพล็อตซีรีส์วายญี่ปุ่น”
ททท.จึงตีโจทย์เพื่อหาช่องทางสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผู้ชื่นชอบซีรีส์วายโดยตรง ด้วยการตั้งแอคเคาต์ “@ThaiBLLovers” บนทวิตเตอร์ ปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 2 หมื่นราย 95% เป็นผู้หญิง โดยกว่า 66% อยู่ในกลุ่มอายุ 20-30 ปี รองลงมาคือกลุ่ม 30-45 ปี มุ่งนำเสนอคอนเทนต์เกี่ยวกับภาพยนตร์ซีรีส์วายที่นำมาออกอากาศในญี่ปุ่น ทั้งบน Public TV, Paid TV และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง รวมถึงความเคลื่อนไหวของเหล่าคู่จิ้นต่าง ๆ และกิจกรรมของ ททท.
“ในตลาดญี่ปุ่น ซีรีส์วายไทยถือว่ามาแรงเป็นอันดับ 1 ท่ามกลางการแข่งขันของซีรีส์วายจากทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออก ทั้งของญี่ปุ่นเอง รวมถึงเกาหลี และไต้หวัน”
และจากผลการจัดกิจกรรม “Thailand Actors Award in Japan” โดย Asia Dramatic TV ซึ่งเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบสนใจร่วมโหวต ผลการเปิดรับผลโหวต 2 รอบ รวม 20,700 คน ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.2564 พบว่า “Best Drama” ที่ได้ผลโหวตสูงสุดอันดับ 1 คือ “2gether The Series เพราะเราคู่กัน” ส่วนอีก 4 เรื่องรองลงมา (ไม่มีการประกาศคะแนนและอันดับ) ได้แก่ TharnType The Series เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ, Sotus The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง, Theory of Love ทฤษฎีจีบเธอ และ I Told Sunset About You แปลรักฉันด้วยใจเธอ
ด้าน “Best Couple” คู่ที่ได้ผลโหวตสูงสุดคือ “ไบรท์-วิน” ส่วนอีก 4 คู่รองลงมา (ไม่มีการประกาศคะแนนและอันดับเช่นกัน) ได้แก่ มิว-กลัฟ, คริส-สิงโต, ออฟ-กัน และ พีพี-บิวกิ้น
ปัจจุบัน Thai BL Drama ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในญี่ปุ่น มีการนำเข้ามาฉายให้ได้รับชมเพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ 1 เรื่อง ในปี 2562, 21 เรื่อง ในปี 2563, 32 เรื่อง ในปี 2564 และ 70 เรื่องที่ถูกวางแผนไว้ในปีนี้
หลังจากปี 2560 มีการสำรวจฐานคนดูภาพยนตร์และซีรีส์วายในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ พบว่ามี 5.2 แสนคน ซึ่งขณะนั้นซีรีส์วายไทยยังไม่ได้เข้าไปตีตลาด โดย ททท.ประเมินว่าปัจจุบันขนาดฐานคนดูตลาดนี้น่าจะเพิ่มเป็นมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว
“ศักยภาพการใช้จ่ายของกลุ่มผู้ชื่นชอบคอนเทนต์แนว BL ชาวญี่ปุ่น เคยสำรวจเมื่อปี 2560 พบว่ามีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องคนละประมาณ 1 แสนเยน (ราว 3 หมื่นบาท) ต่อปี เป็นกลุ่มที่มีลอยัลตี้สูง เวลาจะซื้ออะไร ยินดีจ่ายเพื่อให้เม็ดเงินเหล่านี้ไปถึงมือศิลปินที่รัก”
สำหรับการจัด “กรุ๊ปทัวร์ทดลอง” ตามรอยคู่จิ้น “มิว-กลัฟ” เมื่อวันที่ 10-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นร่วมเดินทาง 10 คน ด้วยการเชิญ 2 ตัวแทน “แฟนด้อม” ของ “มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” และ “กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” ในญี่ปุ่นซึ่งมีสมาชิกรวมกันกว่า 2 หมื่นราย ส่วนอีก 8 คนออกค่าใช้จ่ายเอง โดย 8 ใน 10 คนยังไม่เคยมาเที่ยวเมืองไทย แต่ “ซีรีส์ทำให้เขาอยากออกเดินทาง!” นี่คือ Passion หรือแรงบันดาลใจของกลุ่มนี้ และเมื่อได้ไปเยือนโลเกชั่นหรือสถานที่ถ่ายทำจริง ยิ่งทำให้นึกถึงซีนหรือสถานการณ์ในเรื่อง
“อาจจะไม่เห็นภาพเท่าภาพยนตร์จีนเรื่อง ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand) เมื่อปี 2555 ที่ทำให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยแบบล้นทะลัก เพราะพฤติกรรมการเดินทางตามรอยคู่จิ้นวายของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ต้องอาศัยการประสานงานและเดินทางผ่านบริษัททัวร์เป็นหลัก แต่เป้าหมายของ ททท.อยากเขย่าตลาดให้เห็นว่า กลุ่มผู้ชื่นชอบซีรีส์วายชาวญี่ปุ่นมีแพสชั่น มีศักยภาพในการท่องเที่ยว ให้บริษัททัวร์เห็นโอกาสทางการตลาดของการขายสินค้าใหม่ ๆ จากที่เคยขายสินค้าท่องเที่ยวเดิม ๆ เช่น กลุ่มกอล์ฟ แอคทีฟซีเนียร์ บิสิเนสเลเชอร์ และอื่นๆ”
ททท.ตั้งเป้ายอดขายแพ็คเกจทัวร์ตามรอยคู่จิ้นซีรีส์วายในไทยแก่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นปี 2565 ที่ 1,000 คน และเพิ่มขึ้นในปี 2566 เป็นไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
ขณะที่เป้าหมายรวมในการดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยปีนี้อยู่ที่ 3 แสนคน คาดปลายปีนี้ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. น่าจะเห็นสัญญาณบวกจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่อนคลายมาตรการเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไป สายการบินมีการเพิ่มปริมาณที่นั่งมากขึ้น
แม้ปัจจัยสถานการณ์ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และเงินเยนอ่อนค่า อาจมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางพอสมควร แต่ ททท.เชื่อว่ายังมีคนอยากออกเดินทาง มีแพสชั่นอยากมาเที่ยวไทยหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลายแน่นอน!