“อาทิตย์” เอสซีบี เอกซ์ เร่ง อัพสเกลธุรกิจ รองรับลูกค้าภูมิภาค 200ล้านคน
อาทิตย์ นันทวิทยา ประธาน เอสซีบีเอกซ์ ลั่น Chapter ถัดไป อัพ Scale ธุรกิจ สู่การเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค หวังเจาะลูกค้า200 ล้านคน พร้อมเร่งเพิ่มขีดความสามารถองค์กร ผ่านการใช้เทคโนโลยี -ดิจิทัลแอสเซท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) กล่าวในงาน “Battle Strategy แผนฝ่าวิกฤติ พิชิตสงคราม EPISODE IV : STARTUP SME TO MEGATREND” ว่า ปัจจุบัน เอสซีบีเอกซ์ เพิ่งผ่านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยมองว่า ความจำเป็นของการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ไปสู่ เอสซีบีเอกซ์ หรือยานแม่ ครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างองค์กร สร้างอีโควซิสเต็ม ให้องค์กรมีขีดความสามารถในด้านต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มขีดความสามารถ การเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างปัญญาประดิษฐ์ AI บล็อกเชน หรือดิจิทัลแอสเซท เพราะมองว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยกับลูกค้า แต่เป็นประโยชน์กับลูกค้า
โดยเฉพาะ การมาของดิจิทัลแอสเซท ที่ทำอย่างไร ที่จะให้เอสซีบีเอกซ์ มีขีดความสามารถ มีองค์ประกอบที่สำคัญ ในระบบนิเวศน์ ของดิจิทัลแอสเซทได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอสซีบีกรุ๊ปกำลังดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม มองว่า ภาพที่เห็นภายใต้ เอสซีบีเอกซ์ วันนี้ ยังอยู่ในเฟรมเดิม แต่การที่เราจะเป็นผู้เล่นที่มีขีดความสามารถ ในเรื่อง DATA AI ภาพที่มองเห็นคือ เอสซีบีเอกซ์ จำเป็นต้องเป็นผู้เล่นที่ใหญ่กว่านี้ คือต้องเป็น Local Player ดังนั้นมีความจำเป็นที่ ต้องทำให้ Scale หรือแพลตฟอร์ม ที่สร้างนั้น สามารถขยายตัวออกไปได้ เพราะอนาคต Product คงไม่ใช่แค่ Local Product แล้ว แต่ต้องเป็นโปรดักต์ที่คนสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก ไม่เฉพาะระดับภูมิภาค
ดังนั้นจำเป็นที่ต้องทำให้ Scale ของ เอสซีบีเอกซ์ เป็นระดับภูมิภาค หรือ Regional ที่ต้องเป็น Scale ที่ใหญ่พอ แข็งแรงพอ ที่จะช่วยให้มีขีดความสามารถ ด้าน AI ด้าน logistic และทำให้ ต้นทุน ในการโอเปอเรทลูกค้าดีขึ้น และมีขีดความสามรรถในการเข้าถึงตลาดในรูปแบบใหม่
ดังนั้นความคาดหวังของเอสซีบีเอกซ์ คือการเป็น Player หรือการมีลูกค้าสู่ระดับ 200 ล้านคน ในระยะข้างหน้า เพื่อทำให้ขีดความสามารถบน DATA AI สามารถตอบสนองลูกค้าได้ ซึ่งท้ายที่สุดคงไม่เฉพาะตอบสนองแค่ลูกค้าไทยเท่านั้น
“ภายใต้เอสซีบีเอกซ์ วันนี้ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปาก ว่าเราเป็น Tech company แต่เอสซีบีเอกซ์ มีความมุ่งมั่น มีเป้าหมายในระยะกลาง หรือ Meddle term ในการเป็น Tech company ได้ได้ ดังนั้น business model ต้องพาผู้ประกอบการเติบโตไปด้วยกัน เพราะใน ecosystem ที่มีใครกินรวบ จะไม่ใช่ระบบนิเวศน์ที่ Healthy แต่การที่เรามองว่าผู้ประกอบการ รายเล็ก รายกลาง เป็นองค์ประกอบในระบบนิเวศน์ หากผู้ประกอบการพร้อมปรับตัวผมว่ามีที่ยืน แต่หากไม่ปรับตัว ก็น่าห่วง”
สำหรับรากฐานของการเป็นธุรกิจการเงิน ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง มีหน้าที่นำเงินออมของระบบไปสู่ผู้ประกอบการ
อันนี้คือบทบาทของสถาบันการเงิน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ ก็ยังคอนทินิว ในการเป็นธุรกิจตัวกลาง ตราบที่ธุรกิจแบงกิ้งยังมีประสิทธิภาพในการตอบสนองลูกค้า ด้วย Efficiency ประสิทธิภาพ ด้วยต้นทุนตามความหวังลูกค้าได้อยู่
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เรากำลังทำ คือกำลังสร้างรูปแบบของการสร้างปฏิสัมพันธ์ ผ่านช่องทาง วิธีการในการเข้าถึงลูกค้า เพราะจากการเปลี่ยนแปลงของเจเนอเรชั่น การมาของเทคโนโลยี ต่างๆที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรม มาเปลี่ยนไลฟ์สไลต์ของคน มาเปลี่ยนรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับสถาบันการเงินอย่างมาก
ดังนั้นวันนี้ใครก็ตาม ก็สามารถเข้ามาในธุรกิจการเงินได้ หากมีช่องทางในการสร้าง engagement ก็มีโอกาสนำเสนอทั้งสินเชื่อและโปรดักต์ และสามารถตอบสนองลูกค้าได้เร็วกว่า
วันนี้สิ่งที่ เอสซีบีเอกซ์ ทำมานานและ เริ่มทำในหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Healthcare การจับมือกับ AIS ในการเข้าไปทำเรื่อง Micro lending ให้ผู้ประกอบการ รวมถึงนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นสิ่งที่แบงก์ทำได้บนประสิทธิภาพที่ไม่ดีนัก
เอสซีบีเอกซ์ จึงได้สร้าง อีกกลุ่มธุรกิจ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ออโต้ เอกซ์ จำกัด (Auto X) บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) และบริษัท เอสซีบี อบาคัส (SCB ABACUS)ในการเป็นหัวคอก ของความพยายาม ในการทำเรื่องไฟแนนซิ่งให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มโรบินฮูด ที่กำลังสร้าง Loyalty Program ที่ช่วยสร้าง engagement ให้ร้านค้า ผู้ประกอบการ สร้างกิจกรรมให้ธุรกิจกว้างขว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ เอสซีบีเอซก์วาง scope หรือขอบเขตไว้
